Sep 19, 2012

เที่ยว Dalat กับ Darling

Trip May 2010 : Vietnam (Dalat - Hochiminh)




Dalat photo gallery @pbase >> http://www.pbase.com/ton_manuswee/dalat

ดาลัดนี่เป็นโปรแกรมแทรก กบกับต๋อยชวนไว้เมื่อนานแล้ว เพื่อนจัดการจองตั๋วโปรฯของหางแดงไว้ให้นานจนเกือบลืม ช่วงนี้อากาศเมืองไทยก็ร้อนๆ ฝนลงเป็นระยะๆ ไปเที่ยวดาลัดก็คงดี เท่าที่เคยอ่านดาลัดเป็นเมืองตากอากาศของเวียดนามทางใต้ก็ว่าได้ เพราะอยู่ในพื้นที่สูงอากาศเย็นสบายตลอดปี แถมมีบ้านสวยๆสไตล์ยุโรปด้วย น่าสนใจแฮะ

28 พฤษภา วันนี้วันศุกร์วันหยุดวิสาขบูชา แต่ตั๋วโปรฯมันได้ช่วงเย็น ตั๋วถูกก็อย่างนี้แหละจะให้ได้เวลาดีๆคงยาก เป็นการขึ้นหางแดงครั้งที่ 2 หรือ 3 นี่แหละ (ด้วยเหตุผลส่วนตัวที่ไม่สนับสนุนสายการบินนี้ จะขึ้นก็ต่อเมื่อตามใจเพื่อน ว่าง่ายๆคือไปกับเขาเรื่องมากไม่ได้) ยังนึกว่าไม่ระบุที่นั่ง แต่เดี๋ยวนี้เขาระบุที่นั่งแล้วเพิ่งรู้ สิ่งที่ขัดใจอีกอย่างคือต้องเสียเงินค่าโหลดกระเป๋า จำได้ว่าเมื่อก่อนไม่ถึงร้อยบาท ครั้งนี้ให้ต๋อยทำเรื่องให้ต๋อยบอกว่ามันเที่ยวละ 200 บาทแล้ว!! โอ้ว...แม่เจ้า ไปกลับรวมแล้วเสียค่าโหลดกระเป๋า 400 บาท โหลดได้ 15 กิโล กระเป๋าขึ้นเครื่องได้แค่ 7 กิโล เขามีสุ่มขอชั่งกระเป๋าหรือเป้ด้วย ใครแบกอุปกรณ์กล้องหนักๆก็ระวังด้วย ได้ตั๋วถูกแต่หงุดหงิดใจเป็นบ้า

FD3724 ไม่ดีเลย์ออกจากกรุงเทพฯเวลา 15.50 น. นั่งสัปหงกไปไม่นานก็ถึงโฮจิมินห์แล้วเวลาไม่เปลี่ยนจากไทย เครื่องลงเวลา17.25 น. จัดแจงแลกเงินเวียดนามดองไว้ใช้จ่าย ตอนนี้ดอลล่าห์ตกเยอะมากเหลือประมาณ 32 บาทกว่าๆ แลกเงินที่เคาเตอร์แบงค์ในสนามบินได้เลย อย่าแลกที่เคาเตอร์ท่องเที่ยวเพราะจะเสียค่ากินเปล่านิดหน่อย (คิดเป็นเปอเซนต์) คืนนี้เราจะนั่งรถไปดาลัดกันเลยไม่ต้องนอนที่โฮจิมินห์ให้เสียเวลาเสียค่าโรงแรม ต๋อยมีน้องที่ทำงานที่นั่นจึงให้เขาจองรถให้ไว้ล่วงหน้า รถไปดาลัดมีออกเยอะแทบทุกๆชั่วโมง พวกเราจองไว้เที่ยวประมาณห้าทุ่มเพื่อกะเวลาให้ไปถึงดาลัดเช้าพอดี

แลกเงินเรียบร้อยก็เรียกแท็กซี่เข้าเมือง เหมือนที่เคยเล่าตอนทริปปีที่แล้วว่าให้เลือก Taxi บริษัท VinaSun หรือ Mailinh นอกนั้นอย่าไปเสี่ยง เราเรียก VinaSun ไปฟามงูหลาว-ย่านข้าวสารของไซง่อน เย็นๆอย่างนี้รถติดพอสมควรแต่ก็ขยับไปเรื่อยๆเสียงบีบแตรดังระงมตลอดทาง ทำให้มั่นใจได้ว่านั่งเครื่องมาลงถูกประเทศแน่นอน จ่ายค่าแท็กซี่ไปแสนกว่าดอง ก็หอบของลงไปจัดการเอาตั๋วรถก่อน เราเลือกใช้รถบริษัท Phuong Trang อ่านว่าเฟืองเจียง บ.รถอยู่ปากซอย De Tham เลย ไปจ่ายเงินคนละ 120,000 ดองรับตั๋วคนละใบ เห็นในตารางจองเต็มหมดเลย ถ้าไม่จองอาจได้เที่ยวดึกมาก จัดแจงฝากกระเป๋าแล้วก็ไปเดินเล่นดีกว่าพร้อมกับหาที่พักวันกลับเข้ามาด้วย เดินวนไปวนมาแถบนั้นหาโรงแรม หาข้าวกิน เจอร้านขายข้าวแกงเล็กๆแต่ลุงย่างหมูย่างหน้าร้านชิ้นเบ้อเริ่ม หอมฉุย คนยืนออกันเต็มเราก็เลยไปออด้วย ได้ที่นั่งก็ซัดกันไม่ยั้ง สั่งทุกอย่างทั้งไข่พะโล้ หมูกรอบ หมูย่าง ผัดผัก แกงจืด ชี้ๆเอา คิดเงินมาแล้วคนละไม่กี่สิบบาทอิ่มไป ยังเหลือเวลาอีกนานเลยนั่งซัดเบียร์ 555 รอเวลากัน เลือกร้านนั่งสบาย Hung Hung อะไรสักอย่างรอเวลา 23.45 รถบัสสีส้มแปร๊ดมาถึงหน้าบริษัทฯก่อนเวลานิดหน่อย คนขึ้นนั่งเกือบเต็ม ช่วงเบาะแคบไปหน่อย แต่รถก็สะอาดดี รถออกตรงเวลา เด็กรถแจกน้ำคนละ 1 ขวด จากนั้นก็สลบกันไป รู้สึกว่ารถขับเร็วทีเดียวถนนบางช่วงก็ไม่ค่อยดีหลับๆตื่นๆไปตลอดทาง



29 พฤษภา พวกเราไปถึงดาลัดเอาตอนเกือบๆหกโมงเช้าได้ โอ้วแม่เจ้าที่หนังสือไหนๆบอกว่านั่งรถ 8 ชั่วโมง นี่มันแค่ 6 ชั่วโมงเองนะ ถึงว่าขับเร็วจัง......ลงรถก็ให้รีบจองตั๋วขากลับไว้เลย แต่ได้แต่จองลงชื่อไว้ เพราะเขาขายวันต่อวันนะ เสร็จสรรพก็พากันไปปากซอยหาร้านนั่งจิบกาแฟเวียดเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อน จากนั้นก็มองหาร้านเช่ามอเตอไซต์ ที่ค่อยๆเปิดร้านกัน แต่เราไปได้รถจากเฮียคนหนึ่งที่มาเดินถามๆ ตกลงราคากันที่คันละ 150,000 ดอง เอารถเช้านี้คืนพรุ่งนี้บ่ายสอง ราคาโอเคตามที่หาข้อมูลมา คือเช่ากันวันละประมาณ 70,000 ดอง แต่เราเอาไปทั้งวันทั้งคืน ก็เหมาไปแสนห้าสองคันสามแสน น้ำมันออกเอง ขอดูรถก่อนเก่าไม่เอา ดูแล้วโอเคก็รับรถมาพากันไปเข้าที่พักก่อน หากเอาง่ายๆก็หาที่พักละแวกนั้นได้เยอะแยะ เป็นโรงแรมแบบห้องแถวเหมือนแถวฮานอยหรือไซง่อนนั่นแหละ ห้องละ 5$ - 20$ แล้วแต่ทำเลและสภาพ แต่พวกเราไม่เอา อยากไปพักแบบบ้านพักตากอากาศสมัยเก่า เลยไปทางด้านนอกเมืองนิดนึงชื่อ 28 Villa ซึ่งกบกับต๋อยเคยมาพักแล้วเลยติดต่อจองไว้ล่วงหน้า (จริงๆไปถึงก็ไม่เต็มหรอก แต่ติดต่อไว้ก่อนจะได้ราคาดีกว่า) เดิมทีเราจะเอา 2 ห้อง แต่ตอนเช้านี้ให้เข้าไปห้องเดียวก่อนสายๆค่อยให้อีกห้อง แต่พอเปิดไปดู โอ้โห...ห้องใหญ่มาก แถมมี 2 เตียงอยู่แล้ว แบบเตียงคู่ด้วย เลยตกลงลดเหลือห้องเดียวตกลงได้ที่ 450,000 ดอง บ้านพักเป็นบ้านเก่ารูปทรงแบบยุโรป แถบนั้นมีอยู่หลายหลังเลย เปิดให้เช่าหมด สามารถเลือกดูได้ตามชอบ

ล้างหน้าล้างตาอาบน้ำ แล้วก็ออกไปหาอาหารเช้ากินกัน เช้านี้กินใกล้โรงแรมมีร้านขาย Bun ไปลองชิมกัน ไม่ค่อยอร่อยแต่เอาแค่อิ่มๆก่อน โปรแกรมวันนี้ก็ไปเที่ยวตามจุดท่องเที่ยวสุดฮิตของเมืองนั่นแหละ เริ่มแรกที่ พระราชวังฤดูร้อน (Boa Dai summer palace) ขี่รถขึ้นเนินเขาไปหน่อยนึง (ก็หลงอยู่พักนึงนะดูแผนที่ไม่รู้เรื่องเลย แผนที่แย่มาก ต้องแวะถามไปตลอด) จ่ายค่าเข้าแค่ 17 บาท คือหมื่นดอง แล้วก็เข้าไปเดินดู ในวังไม่หรูหราอะไร ก็เดินดูไปเรื่อยๆมี 2 ชั้นไม่ใหญ่โตด้วย รอบๆอาคารมีสวนพอดูได้ แต่คนเวียดก็เที่ยวกันเยอะนะเพราะเป็นวันเสาร์ วันนี้ฟ้าใสแดดแจ๋ ออกมาเดินด้านนอกไม่เท่าไหร่ก็ไม่ไหวล่ะ ถึงลมจะเย็นแบบลมหนาวแต่แดดไม่ปราณีกันเลย เลยไปหลบเดินเล่นในสวนด้านหลัง แหม...เจอกองถ่ายหนังหรือละครไม่รู้ถ่ายอยู่ตั้งไกลใครจะไปรู้มุมกล้องวะ พวกเด็กกองมาโวยวายไล่กันใหญ่ ก็ไม่ได้ขึงเชือกกั้นเขตไว้นี่หว่า ทำมาโวยวายเสียงดังก็ฟังไม่ออกหรอกแต่ไม่ชอบ เลยโวยกลับไปบ้างเราก็ฟังมันไม่ออกมันก็ฟังเราไม่ออก แต่มันคงตกใจเหมือนกันว่าอีนี่ด่าอะไรกูวะ มันก็เลยทำหน้าจ๋อยๆแล้วก็แค่โบกมือบอกกว่าให้ออกจากแนวนี้ เออ...บอกกันดีๆก็รู้เรื่อง อย่ามาตะโกนไม่ชอบ ซื้อตั๋วมาเที่ยวนะเฟ้ยไม่ได้เข้าฟรี ( 17 บาท - -“)

ออกจากพระราชวังขี่รถกลับลงมาตามทางเดิมไม่ไกล เลี้ยวซ้ายเข้าซอยนิดนึงไปเที่ยวที่ Crazy House อีกทีหนึ่ง ที่นี่เดิมทีตั้งใจทำเป็นห้องพัก แต่ออกแบบได้สร้างสรรค์มากเหลือเกินแปลกพิสดาร เลยกลายเป็นที่ท่องเที่ยวไป เสียค่าเข้าแล้วก็เดินเที่ยวชมได้ทั่วๆ ยังมีการสร้างต่อเติมเรื่อยๆ อ่านประวัติแล้วเจ้าของเป็นสาวเวียดที่ไปจบสถาปัตย์มาจากมอสโคเชียวนะ แล้วกลับมาทำงานราชการที่เวียดนาม เรียนต่อจนเป็นดร.เลย จนย้ายมาทำที่ดาลัดชอบบรรยากาศที่นี่เลยมาสร้างรีสอร์ท แต่เธอเป็นดร.อ่ะนะเลยออกแบบให้ล้ำไว้ ดูแล้วเวียนหัวพอดู แต่แปลกตาดี เดินเล่นเย็นๆใจก็เที่ยงซะแล้วหาเฝอกินกันเป็นอาหารเที่ยง อิ่มดีก็ลุยต่อ คราวนี้ไปนั่ง cable car กัน ขี่รถไปอีกด้านของเมืองถึงสถานีเคเบิ้ลคาร์ซึ่งอยู่บนเนินเขามองเห็นตัวเมืองได้กว้างดี ถ่ายรูปบ้านสีๆสวยน่ารักกันพักหนึ่งก็ไปขึ้นกระเช้ากัน ตัดสินใจซื้อไปกลับแค่ 2 คนเพื่อกลับมาเอามอเตอไซต์ 2 สาวก็รอด้านบนเลย เดี๋ยว 2 หนุ่มขี่รถไปรับ ไม่ต้องเสียค่ากระเช้าทั้ง 4 คน เพราะไปกลับ 60,000 เที่ยวเดียว 40,000 นั่งกระเช้าเพื่อข้ามเขาไปวัดจีนด้านบน กระเช้าข้ามเขาตั้ง 2 ลูกนานทีเดียว เห็นดาลัดยังเขียวอยู่ป่าสนเต็มด้านล่าง ถึงได้เย็นสบายตลอดปี จากสถานีรถกระเช้า เดินข้ามถนนไปก็จะพบวัด 2 สาวไปเดินเที่ยววัดกันล่วงหน้า ระหว่าง 2 หนุ่มนั่งกระเช้ากลับไปเอารถ วัดชื่ออะไรจำไม่ได้แฮะ แต่ดูใหม่ๆ ใหญ่พอสมควร คนเยอะมาก เพราะมีสวนดอกไม้ 2-3 แปลง ดอกไม้ช่อโตมาก ก็แดดดีอากาศดีอย่างนี้ เดินไปสุดแปลงดอกไม้มองลงไปเป็นหุบเขา เห็นทะเลสาปด้านล่างวิวสวยมากเลย มีทางเดินลงไปได้ แต่เราไม่เดินหรอกรอรถแล้วเดี๋ยวบิดลงไปดีกว่า

กว่าหนุ่มๆจะกลับมา แดดดีๆเมื่อกี้มันหายวับไปเร็วมาก อยู่ดีๆก็ครึ้มซะงั้น สักพักฝนก็ลงโครม สาวเวียดวิ่งกันวิ๊ดว๊าย นั่งรอฝนหยุดสักพัก ก็เหมือนหลอก พอใส่หมวกสตาร์ตรถก็ตกอีก ไม่รอแล้วเฟ้ยพอฝนซาใส่เสื้อฝนก็บิดออกไปดีกว่าไปหาที่พักพิงเอาดาบหน้า ลงไปริม Lake of Paradise ที่เห็นจากวัด ฝนตกๆหยุดๆ เลยแวะนั่งซดเบียร์ 555 แกล้มปอเปี๊ยะทอดเล่นเย็นๆใจ ฝนหยุดก็หนาวเชียว เย็นแล้วไปไหนต่อก็ไม่ทัน เลยกลับเข้าเมืองขี่รถวนๆเล่น แต่เมืองเละไปหมดเพราะฝนลงและทะเลสาปกลางเมืองที่ตากบคุยนักคุยหนาว่าโรแมนติคค่อดๆมันแห้งเหลือแต่พงหญ้า - -“ ก็ตอนนี้เขากำลังทำถนน ทำสะพานข้ามทะเลสาปเพิ่มน่ะ เลยสูบน้ำทดน้ำออกหมด ก่อสร้างเต็มเมือง ถนนเลยยิ่งเละหนัก แต่ได้ไปเจอย่านที่บ้านโบราณสวยๆน่ารักๆเป็นซอยเลย เหมือนอยู่ในชุมชนยุโรป เย็นนี้ไปนั่งกินข้าวร้านริมทะเลสาปใช้วิธีจินตนาการเอาว่าโรแมนติคขนาดไหน ฮ่าๆๆๆ


30 พฤษภา วันนี้อยู่ดาลัดต่ออีกแค่ค่อนวัน จองรถไว้เที่ยวบ่ายสองสี่สิบห้า คงไปถึงโฮจิมินห์ดึกๆ เช้านี้ต้องเก็บตกที่ๆยังไม่ได้ไปเมื่อวาน เริ่มที่อาหารเช้าที่ตลาดดาลัด ซัดเฝอ ซัดข้าวต้มกันแปร้ ถามทางที่ tourist information เพื่อไป Valley of love ว่าแล้วก็บึ่งไปเอาตั๋วรถทัวร์ก่อน หลงทางไปวนอ้อมซะไกลเลย ถนนมันคล้ายๆกันหมด สบายใจได้ตั๋วมากอดก็บึ่งไปนอกเมืองสัก 4 กิโลถึง Valley of Love โฮ่...คนเยอะมาก เพราะวันนี้วันอาทิตย์ ดูแล้วลักษณะคล้ายสวนนงนุช แต่เล็กกว่า ก็มีเครื่องเล่นเด็กๆ มีสวนดอกไม้ มีรถม้า มีซุ้มให้ถ่ายรูป เดินเลยไปด้านหลังวิวสวยดี เพราะเป็นทะเลสาป (อีกแล้ว) อยู่ในหุบด้านล่าง สามารถเดินลงไปได้ ขี้เกียจก็จ้างรถจี๊บขับลงไปส่ง ด้านล่างก็เป็นเหมือนสวนดอกไม้เช่นกัน ยืนดูข้างบนนี่แหละสวยงามใช้ได้ อยู่ไม่นานก็กลับเข้าเมืองไปเก็บตกอีกที่ๆนังกบอยากไปมากคือน้ำตาก Dalanta มันอยู่ใกล้ๆ Lake of Paradise แต่เมื่อวานฝนตกซะก่อน ที่มันน่าสนใจเพราะมันมีรถราง (Pipe line coaster) นั่งลงไปน้ำตกด้านล่าง มันเสียวนิดหน่อย แต่คนอื่นชอบกันใส่ซะสุดๆเลย ของเราเบรคมันทุกโค้ง ฮ่าๆๆๆ ลงไปด้านล่างชมน้ำตกก็สวยงามดีน้ำเยอะ ขาขึ้นถ้าไม่อยากเดินก็นั่งรถเดิมนั่นแหละแต่มันเป็นสลิงลากขึ้นไปเฉยๆ ส่วนมากคนจะเดินลงแล้วนั่งรถลากขึ้นไป แต่เราซื้อตั๋วไปกลับเลย สบายดี

เสร็จสมอารมณ์หมายของตากบ ก็กลับเข้าเมืองไปหาสถานีรถไฟดาลัด เคยเห็นรูปมันสวยดี เก่าๆแต่สีสันสดใส หลงทางอีกเช่นเคย แวะถามทางพี่ๆวินมอเตอไซต์ไปเรื่อยจนเจอในที่สุด สถานีรถไฟสวยดี มีนักท่องเที่ยวไปแวะถ่ายรูปอยู่บ้าง มีพวกสตูดิโอถ่ายภาพแต่งงานไปถ่ายด้วยพร๊อพมันดีจริง.....เวลาหมด หมดเวลา บึ่งรถกลับที่พักอาบน้ำสักหน่อย เก็บของบึ่งไปสถานีรถแล้วไปคืนรถ หาข้าวกินรอเวลา สรุปก็เป็นเฝออีกที่หากินง่ายสุด ตบท้ายด้วยเต้าฮวยที่แม่ค้าหาบมายั่วน้ำลาย ถึงเวลารถออกตรงเวลาเช่นเคย พอรถเริ่มออกแดดแจ๋ๆก็หายปุ๊บยกนาฬิกาดู แหม....เวลาเดิมกับเมื่อวานเลย พอบ่ายสามฝนก็ตก บ๊ะ...มาดาลัดเที่ยวได้แค่บ่ายสามซินะ แต่ก็ดีอากาศเลยเย็นสบายตลอดทาง นั่งรถกลางวันไม่ได้หลับ เลยได้เห็นทางบ้าง มันก็เป็นทางเขาแหละนะ ถึงว่าทำไมแจกถุงอ้วก แต่ไม่ได้คดเคี้ยวเท่าไหร่เลย ทำไมมีคนลงไปอ้วกเวลารถจอดด้วยล่ะ คนเวียดนี่ถ้ามาเจอแม่ฮ่องสอนบ้านเราคงอ้วกตั้งแต่สตาร์ทรถ

รถจอดสัก 2-3 จุดพักแค่นั้น บนรถไม่มีห้องน้ำ ต้องเข้าตามจุดจอด ก็สะอาดพอใช้ได้ รถเข้าถึงโฮจิมินห์ตรงเวลาคือประมาณสี่ทุ่ม ก็ 7 ชั่วโมง ขาไปขับเร็วกว่านะ รีบเข้าไปเช็คอินโรงแรมที่จองไว้ตั้งแต่วันแรก ออกมาหาข้าวกิน ลุงย่างหมูปิดร้านไปแล้ว เลยไปลองซัดพิซซ่า-สปาเก็ตตี้ร้านกินเบียร์วันแรกก็อร่อยดี หมดแรงกลับไปนอนดีกว่า วันนี้ไม่ได้นั่งแฮงค์เอาท์


31 พฤษภา เช้านี้ได้อยู่ที่โฮจิมินท์สักค่อนวัน กลับเครื่องช่วงเย็นๆ กลุ้มใจจริง ไม่รู้จะเที่ยวอะไร เพราะทุกคนเคยมาโฮจิมินห์กันหมดแล้ว หลังอาหารเช้าก็ตกลงกันว่ายังไงก็ไปชมไฮไลต์สักหน่อยแล้วกัน ก็ไปเดินถ่ายรูปแถวอนุสาวรีย์ลุงโฮ อาคารรัฐสภา เดินไปจนถึงโบสถ์ และไปรษณีย์ เพลิดเพลินกับการแอบถ่ายรูปคู่บ่าวสาวที่มาถ่ายภาพแต่งงานกัน แดดก็ร้อนเปรี้ยงสงสารบ่าวสาวจริงๆ วนจนครบก็ยังไม่เที่ยงสักที เลยตัดสินใจเดินไปตลาดเบนถั่น ไม่นั่งรถเพื่อฆ่าเวลา เดินไปเรื่อยๆ ถึงตลาดก็ต่างคนต่างหาของที่หมายตาไว้ เช่นกระเป๋า เป้ กาแฟ ต่อราคากันจนมึน จ่ายด่องบ้าง $ บ้าง จบรายการด้วยร้าน Pho2000 มุมถนนข้างตลาด เป็นร้านที่คนดังๆเคยมากินด้วย เช่นปธน.จิมมี่คาร์เตอร์ เราเคยกินแต่ร้าน Pho24 ชิมแล้วก็รดชาดพอๆกัน ต๋อยบอกว่าเดี๋ยวนี้มีร้าน Pho20000 ด้วยแหละ

กลับโรงแรมเก็บของบึ่ง Taxi ไปสนามบิน ถึงสนามบินสักสี่โมงกว่า เครื่องออกหกโมง เวลากำลังดี เพิ่งเจอคนไทยเยอะก็ที่สนามบิน ที่ดาลัดไม่เจอเลย แปลกจัง น้ำหนักกระเป๋าโหลดเกินไปนิดนึง 15.5 กิโล เพราะขนกาแฟมาให้แม่ เลยทะลึ่งงัดขาตั้งกล้องมาถือ ที่ไหนได้ เข้าไปตรวจอาวุธด้านใน (หลังตรวจ passport แล้ว) มันไม่ให้หิ้วขาตั้งเข้าเฟ้ย เฮ้ย...งงมาก บินมาตั้งหลายประเทศไม่เห็นมีใครเคยห้าม ขาตั้งกล้องมันเป็นอาวุธหรือไง ไม่รู้มันไม่บอก ได้แต่บังคับพาออกไปให้โหลดเพิ่ม เฮงซวยมากสนามบินเวียดนาม ไม่มีการแจ้งด้วย ด้านหน้าก็มีป้ายแจ้งแค่ของเหลว วัตถุมีคม วัตถุที่ระเบิดได้ บลาๆๆ แต่กูจะรู้มั๊ยว่าขาตั้งกล้องไม่ให้ บ้าเอ๊ย....แต่ของกบกับต๋อยขาเล็กกว่า เล็กกว่านิดเดียวเองซุกไว้ในเป้ มันดันให้ผ่าน แต่ของเราเป็นถุงขาตั้งเลยมันไม่ให้ งงกับมาตรฐานมันมาก มันบอกใหญ่ไป ใหญ่บ้านเวียดมันซิ ความยาวแค่ศอกเดียวเท่ากับของตากบนั่นแหละ งงมาก มีคนไทยคนอื่นโดนด้วยเหมือนกัน งงเหมือนกัน ขาตั้งขนาดเท่ากันนั่นแหละเป็นถุงขาตั้งขนาดแค่ศอกมันไม่ให้เข้า สรุปต้องไปโหลด เจอค่าโหลดหน้าเคาเตอร์ไป 10$ โอ้ว...แม่เจ้า...เที่ยวมาสนุกๆ มาเกลียดเวียดนามตอนจบจนได้......


 ข้อมูลท่องเที่ยว

O Boa Dai summer palace @ 10,000 Ð

O Crazy house @ 16,000 Ð

O Cable car RT @ 60,000 Ð OW @ 40,000 Ð

O Valley of Love @ 20,000 Ð

O Dalanta waterfall @ 20,000 Ð

O Pipe line coaster RT @ 70,000 Ð

O 28 Villa ทีพักดาลัด ห้องใหญ่ 2 เตียง นอน 4 คน @ 450,000 Ð ต่อห้อง 4 คน

O มอเซอร์ไซต์ วันครึ่ง เหมา 150,000 + น้ำมันเติมไป 40,000 Ð

O อาหาร 4 คน ตกมื้อละประมาณ ±120,000 Ð (รวมเบียร์ทุกมื้อ 3-4 กระป๋อง)

O ที่พักโฮจิมินห์ Hoang Khanh Hotel แถบ Pham Ngu Lao ห้องแอร์ไม่มีหน้าต่าง @13$ ต่อห้องๆละ 2 คน

O รถบัส HoChiminh – Dalat บริษัท Phuong Trang @ 120,000 Ð

อัตราแลกเปลี่ยน 28 พฤษภาคม 2553

1$ : 32.86฿

1$ : 18,900 Ð

No comments:

Post a Comment