Oct 13, 2012

ไปเล่นสกีที่ฟูราโน...Furano Ski Trip

Trip Feb. 2011 : Furano, Japan   




ไปเล่นสกีที่ฟูราโนกันเถอะ   <คลิ๊กเพื่อไปดูรูป>


เพื่อนชวนไปเล่นสกีตั้งแต่ปีก่อนโน้น พูดกันจนลืม ในที่สุดก็มาลงล็อคที่เดือนกุมภาฯปี 2011 นี่เอง ตัดสินใจอยู่นานเพราะบวกลบคูณหารแล้วค่าใช้จ่ายคงแพงโข...แต่ความรู้สึกเมื่อปลายปี 09 ที่ไปเดินเล่นนั่งเล่นอยู่ในสกีรีสอร์ที่เกาหลียังติดใจอยู่ วันนั้นบอกตัวเองว่า อยากเล่นสกี!!

เพื่อนจัดการเรื่องตั๋วและที่พักให้หมด เพราะเธอเคยไปมาก่อนแล้ว 1 ครั้ง แถมยังติดต่อครูสอนสกีไว้ให้ด้วย ไปเล่นที่ฮอกไกโดเกาะที่อยู่ทางเหนือสุดของญี่ปุ่นกันซิ สรุปรายละเอียดมาได้ง่ายๆว่า บินจากกรุงเทพฯไปโตเกียวแล้วต่อเครื่องไปอาซาฮิกาว่าแล้วต่อรถไปฟูราโน ~ Bangkok – Haneda – Asahikawa – Furano ~ หลายต่ออยู่นะ วันแรกตระเตรียมตัวสำหรับเรียนสกี วันที่สองเรียนสกี วันที่สามเรียนสกี วันที่สี่เรียนสกี วันที่ห้าเล่นสกี (คาดว่าน่าจะเป็นแล้วเลยใช้คำว่าเล่นแทนเรียน) กลับเครื่องตอนกลางคืน รายการมีแค่เนี๊ยะแหละ ง่ายๆ - -“

เราเลือกบินกับ ANA เครื่องออกตอนห้าทุ่มกว่า บินไปถึงสนามบินนานาชาติฮาเนดะตอนเช้ามืด ก่อนเครื่องลงท่านกัปตันแจ้งว่าอุณหภูมิเบาะๆแค่ 1 องศา เท่านั้นจึงจัดแจงใส่เลคกิ้งเตรียมพร้อม เสื้อโค๊ทเดี๋ยวค่อยเอาตอนรับกระเป๋าก็ได้ เพราะสำหรับคนต่อเครื่องต้องลงมารับกระเป๋าแล้วลากไปเช็คอินที่เคาเตอร์อีกครั้ง ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่เช็คยาวไปเลยเพราะที่นั่งก็ระบุมาหมดแล้ว แต่มันก็แค่ใกล้ๆลงมาแค่ชั้นเดียว เช็คอินเสร็จก็เดินไปขึ้นรถ shuttle bus ไปสนามบินภายในประเทศ ถึงภาษาอังกฤษจะไม่เลิศเลอ แต่ระบบการจัดการ การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวของญี่ปุ่นก็ดีมากทีเดียว มีทำใบปลิวแจก อธิบายจุดรอรถขึ้นรถให้นักท่องเที่ยวทุกคนชัดเจน

มีเวลาอยู่ที่สนามบินประมาณ 2 ชม.กว่า เลยเดินดูของซึ่งล้วนเป็นขนมทั้งนั้น น่ากินมากๆทุกร้านทุกตู้ ซื้อติดไปบ้างเอาไว้กินเล่นกัน ทั้ง Cheese cake ทั้งโมจิ ทั้งคุ๊กกี้ ขนมปัง ชูครีม โอย...อร่อย เดินชิมไปทุกร้าน หอมหวลจริงๆ แต่ราคาไม่ค่อยมิตรภาพเท่าไหร่ กล่องละ 1,000 – 3,000 เยนทั้งนั้น ตกประมาณ 400 บาทขึ้น ร้านมีให้เลือกเต็มไปหมด ล้วนทำสดๆหอมๆ ใครจะอดใจไหว



ถึงเวลาไปขึ้นเครื่องเพื่อไป Asahikawa เมืองใหญ่กลางเกาะฮอกไกโด (Hokkaido) ใช้เวลาบินชม.กว่าๆก็มาถึงตรงเวลา "ฮิโรชิซัง"หนุ่มยุ่นร่างเล็กกระทัดรัดเจ้าของอพาตเมนต์ขับรถมารับเราที่สนามบิน รถมินิแวนพาพวกเรา 4 สาวออกจากสนามบินมุ่งตรงไปฟูราโน ช่วงแรกช่างตื่นตาตื่นใจกับสีขาวของหิมะที่ปกคลุมไปทั่ว 
อากาศวันนี้ 1 องศา ตามท่านกัปตันบอกจริงๆ จะว่าหนาวมากก็ไม่เชิงเพราะเสื้อผ้าเตรียมมาพร้อม เสื้อยืดแขนยาว 1 ตัว pull over 1 ตัว แล้วก็โค๊ท 1 ตัว ใส่เลคกิ้งตัวที่ซื้อจากเกาหลีแล้วทับด้วยกางเกงยีนส์ แค่นี้ก็อุ่นพอ (เลคกิ้งซื้อเมืองไทยมันไม่อุ่นจริงๆ บางเกิน)
นั่งไป 1 ชม.จวนเจียนจะหลับก็มาถึงฟูราโน เมืองเล็กๆชื่อเสียงโด่งดังในฤดูร้อนเพราะมีทุ่งลาเวนเดอร์เป็นจุดขาย (แล้วพวกเรามาทำไรฤดูหนาวล่ะเนี่ย - -‘) ภาระกิจแรกบอกฮิโรว่าโคตรหิว ฮิโรเลยพาไปซัดราเม็งคนละชาม ราเม็งแท้ๆที่ญี่ปุ่นอร่อยกว่าที่เคยกินในเมืองไทยเยอะ...จริงๆนะ... อิ่มแปร้ก็ไปแวะซุปเปอร์ซื้อเสบียงกรังไว้ทำอาหารกินง่ายๆบางมื้อ ถือโอกาสซื้อของฝากเล็กๆน้อยๆด้วยของกินแปลกๆเพียบ ญี่ปุ่นนี่ช่างทำจริงๆ เสร็จจากซุปเปอร์ ฮิโร่พาไปเลือกซื้ออุปกรณ์เล่นสกีเพิ่มเติมในส่วนที่ขาด เช่น แว่นหรือถุงมือ กางเกงเราซื้อมาจาก MBK ในราคาพันกว่าบาท แก๊ะมาซื้อที่นี่โดนไป 3,000 กว่าบาท แต่เป็น northface ของแท้นะ แพงแต่ดี ได้ของครบครันถึงจะได้เข้าบ้าน จะมีเจ้าของอพาตเมนต์ที่ไหนให้เราเรียกใช้ได้ขนาดนี้ ช่างน่าประทับใจจริง ฮ่าๆๆๆ


Tsuru Apartment ของฮิโรเหมือนทาวเฮาส์ 2 ชั้น 2 ห้องนอน กว้างขวางและโคตรสะอาด เช้าๆเราก็ทำอะไรเล็กๆน้อยๆกินกันที่ครัวด้านล่าง ตู้เย็นใหญ่ยักษ์แช่น้ำผลไม้ขนมนมเนย ไข่ เค็ก ที่ซื้อมาเต็มตู้ไปหมดยังกะอยู่สักเดือน เครื่องล้างจาน เครื่องซักผ้าพร้อม ห้องน้ำใหญ่มีทั้งอ่างทั้งฝักบัว ทั้งหมดนี่ราคาคืนละ 38,000 เยน ประเดิมคืนแรกด้วย Furano wine ทั้งขาวทั้งแดง ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ แต่เค็กกับพุดดิ้งอร่อยมากร้านแถวๆบ้านนั่นเอง จิบไวน์ไปดูหิมะตกปรอยๆ บรรยากาศโรแมนติค น่ามากะแฟน หันมองหน้ากันมีแต่ผู้หญิง 4 คน เฮ้อ.....ตกค่ำชวนฮิโร่ขับรถออกไปกินข้าวอีก มื้อนี้บอกอยากกินซูชิ ฮิโร่ก็พาไป มันอร่อยม๊ากกกกก ปลาสดๆ แถมด้วยสุกี้ญี่ปุ่นด้วย อร่อยสุดๆ

ตื่นเช้ามาได้กลิ่นแกงกระหรี่หอมเตะจมูก ก็แก๊ะเริ่มทำแกงกระหรี่หม้อใหญ่ซิ เอาไว้กินกันหลายๆวัน เช้านี้เลยซัดข้าวแกงกะหรี่ไก่เพิ่มพลัง พร้อมออกไปลานสกีล่ะ Kitanomine slope อยู่ไม่ไกลจากบ้าน เดินไปเรื่อยๆก็ถึง ร้านที่เราติดต่อเช่าอุปกรณ์สกีไว้ คือรองเท้าและสกีก็อยู่ตรงข้ามสโลปนี่แหละ อิรองเท้าสกีนี่มันใส่ยากมากใส่แล้วเดินก็ยาก ยังกะโรโบคอป แถมต้องแบกอุปกรณ์ข้ามถนนเดินขึ้นเนินไปรอฮิโร แค่แบกมาแค่นี้ก็หอบลิ้นห้อยแล้วนะ บนลานสกี มีเด็กนร.มาเรียนสกีกันเต็ม แบ่งเป็นกรุ๊ปๆละ 5-10 คน เขาว่าเป็นคลาสเรียนเลย ก็ไม่แปลกฤดูนี้จะให้ไปเล่นกีฬาอะไรได้

วันนี้ครูสกียังไม่มา เพราะเราเลื่อน flight มาเร็วไป 1 วัน ครูยังติดงานอยู่ที่ Niseko วันนี้ฮิโร่จะสอนเอง ฮิโร่เองก็เป็น Ski instructor ด้วยเหมือนกัน กรุ๊ปเรา 4 คน เล่นสกี 3 คน แถมเก๋เล่นเป็นแล้วจากปีก่อน ก็เลยต้องมาเล่นวนๆเวียนๆอยู่ใกล้ๆกับ beginner 2 คน เราก็เริ่มหัดตั้งแต่ใส่สกี ขาเดียว แล้วก็ 2 ขา เริ่มเดิน เริ่มสไลด์ และวิธีหยุดสกีเวลามันเคลื่อนที่ ฮิโร่เรียกว่า “ทำพิซซ่า” คือการกางขาออกแต่ชี้ปลายเท้าเข้าหากันเป็นสามเหลี่ยมนั่นคือการหยุด ทั้งเช้าอิ่มทำพิซซ่า ยังไม่สำเร็จ ล้มกลิ้งกันเป็นพักๆ ฮิโรที่ดูเป็นคนง่ายๆเอาแต่ยิ้ม พอมาเป็น instructor แล้วดูจริงจังมาก ฮีเครียดเราก็เครียด จบครึ่งเช้ายังไม่ได้ไรเป็นชิ้นเป็นอัน พักเข้าไปซัดราเมงร้อนๆในโรงอาหาร ตกบ่ายฮิโรเหมือนไปกินยาโด๊ปมา วิ่งเข้ามายิ้มเผล่บอกว่า I change my mind, we will go to share lift!! นั่นคือนั่งลิฟต์ขึ้นไปด้านบน!! แม่เจ้ากรูยังเล่นไม่เป็น....


ผลก็คือตลอดบ่าย ล้มกลิ้งๆอยู่ด้านบน ลงมาไม่ได้ แค่ลงจากลิฟต์ก็ล้มกลิ้งแล้ว ไม่ต้องสกีไปไหนไกลหรอก ระยะทางแค่ไม่ถึง 1 กิโลเมตร สกีกลิ้ง สกีกลิ้ง ไม่ใช่สวิงกิ้งนะ เหนื่อยจะยันตัวลุก เหนื่อยจะใส่สกีใหม่บ่อยๆ ในที่สุดฮิโรต้องลากแก๊ะลงไปก่อน 1 รอบ ปล่อยเราพยายามคลำทางกับเก๋ที่พอเล่นเป็น แต่ก็ไม่รอด ไปไม่ถึงครึ่งทาง จนฮิโรกลับขึ้นมารับ ฮิโร่ก้มลงจับปลายสกีของเราแล้วสกีถอยหลังพร้อมลากสกีเราลงไปเลย พาวิ่งฉิวๆ แล้วบอกให้จำความรู้สึก ลงน้ำหนักซ้ายขวาตามนี้ๆ มันเสียวมากนะขอบอก กลับลงมาแบบหน้าซีดๆ เอาไว้ลองใหม่พรุ่งนี้กับครูสกีละกัน....

คืนนี้เราแยกกันนะฮิโร เค้าเครียด....พวกเราเลยไปหาข้าวกินกันเอง กับน้องๆที่ตามมาสมทบอีก 3 คน กินชาบูชาบู กับปลาย่าง อร่อยใช้ได้ กลับบ้านไปนอนกลิ้ง เครียดก็เครียด พรุ่งนี้จะเป็นยังไงว๊า....

ตื่นมาซัดข้าวแกงกะหรี่เหมือนเดิม พร้อมรบ! ออกไปลานสกีที่เดิม วันนี้ได้ครูสกี 2 คน คู่สามีภรรยา  Ben เป็นชาวนิวซีแลนด์ Naoko เป็นญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษเริ่ดทั้งคู่เพราะเรียนอังกฤษมา เราได้ Naoko มาสอน ส่วน Ben ไปสอนน้อง 3 คน ฮิโรก็เลยได้พาเก๋ไปสกีด้านบนได้สบายใจ


เช้านี้ก็ refresh ใหม่อีกรอบ แล้วก็ซ้อมเลี้ยวซ้อมหยุด เรียนอยู่ด้านล่าง ล้มบ้างพอเป็นพิธี แล้วก็ตัดสินใจขึ้นลิฟต์ไปอีกครั้ง ยังเล่นๆล้มๆอยู่แต่ดีกว่าเมื่อวานหน่อย ลงมาได้ 3 ใน 4 ของ Slope สุดท้ายแก๊ะหมดแรง นาโอโกะต้องพาลงอีกเช่นเคย แต่นาโอโกะใช้วิธีเสียวน้อยกว่าฮิโรหน่อย ชีให้แก๊ะอยู่ด้านหน้าเราอยู่ด้านหลังแล้วก็สกีลงแบบแซนด์วิช โฮ่ๆๆๆ มันเจ๋งมาก! ตกบ่าย Ben & Naoko วิเคราะห์แล้วว่า Kitanomine slope นี้มันอาจจะยากไปสำหรับ Beginner เลยย้ายไปเรียนที่ Prince slope แทน




โชคไม่ช่วยเพื่อนเราที่เรียนด้วยกัน แค่ลง lift ก็ล้มกลิ้งมาทับกันซะแล้ว คราวนี้ขาไขว้ไปมา หลังจากครูช่วยกันงัดเรา 2 คนแยกจากกัน เราตรวจร่างกายแล้วสบายดี แต่แก๊ะบอกเจ็บข้อเท้า เลยไปนั่งพักก่อนบอกขอรอดูอาการ เราเลยไปกับนาโอโกะก่อน 1 รอบ

slope ที่นี่ไม่โหดอ่ะ เหมาะสำหรับหัดจริงๆ ยังล้มบ้างนิดหน่อยแต่เริ่ม control ได้มากขึ้น วนขึ้น lift กลับมา แก๊ะส่ายหน้าบอกไม่ไหว เลยต้องเรียก patrol มาเอาตัวลง ได้นอนลากเลื่อนลงอย่างเท่ห์ คราวนี้เราเลยได้เรียนแบบเข้มข้น 1 ต่อ 1 เลย รู้สึกดีขึ้นเล่นได้ดี แต่ช่วงบ่ายหิมะตกหนักจริงๆ ต้องเข้าไปพักสักระยะ เพราะตััวอุ่นมืออุ่นแต่แก้มกับปากจะแข็งเอา ฮิโรพาเพื่อนอีกคนขึ้นกอนโดล่าไปเล่นที่ความสูงสองพันกว่าเมตร ถ่ายรูปลงมาดูหิมะท่วมถึงเข่า ยังสกีเล่นกันสนุกสนาน คืนนี้นอนหมดแรง นาโอโกะแนะนำว่าให้แช่น้ำอุ่นอย่าอาบฝักบัวจะได้คลายกล้ามเนื้อด้วย เลยแช่ขาไปสัก 1/2 ชม. ใช้ได้เลย..

เช้าที่สาม ตื่นมาเตรียมตัว ถึงเวลานัดฮิโรตอนแปดโมง เพราะจะไป prince slope มันไกลเดินไม่ไหว ฮิโรจะเอารถไป ถึงเวลาเปิดประตูออกมา ตกใจ!! หิมะท่วมหน้าบ้าน สงสัยเมื่อคืนตกหนักวุ๊ย ฮิโรนุ่งกางเกงสกีสีแดงตัวเก่งกวาดหิมะหน้าเครียด พร้อมบอกว่าเลื่อนเวลาสัก 1 ชม.นะ Ben&Naoko ก็ต้องกวาดหิมะหน้าบ้านเหมือนกัน

ระหว่างฮิโรกับเพื่อนบ้านต่างคนต่างกวาดหิมะหน้าเครียด พวกเราก็ตื่นเต้นเดินเล่นถ่ายรูปกันสนุกสนานไป หิมะสูงท่วมเข่าเคยเจอซะที่ไหน รถกวาดหิมะของเมืองก็เริ่มมากวาดถนนแล้ว ไม่งั้นคงขับรถไปไหนไม่ได้ เห็นแต่ละบ้านออกมากวาดหิมะแบบหน้าตายังไม่ตื่นกันทั้งนั้น คิดๆก็น่าสงสารเหมือนกัน วันนี้ -10  นะแต่เราไม่หนาวเท่าไหร่แฮะ สงสัยจะชินแล้วมั๊ง


คืนนี้นัดแนะกับฮิโรไว้ให้ทำกับข้าวให้กิน เพราะได้ยินชื่อเสียงว่าฮีทำอาหารอร่อย จริงๆที่พักของฮิโรด้านล่างเขียนว่า Restaurant นะ แต่เปิดเฉพาะเวลาพ่อครัวว่างหรือพ่อครัวโดนรีเควสเท่านั้น 555 เราเลยขอรีเควสสักมื้อ เก๋บอกว่าปีก่อนฮิโรก็จัดปาร์ตี้ให้ ปีก่อนมีหอยเชลล์ มีปูฮอกไกโดด้วย โอ้ว...แม่เจ้า...อยากกิน แต่ปีนี้ไม่ีมีอ่ะ ฮีเลยทำสุกี้ เนื้อ หมู และแกะให้ พร้อมเทมปุระกุ้งตัวโต โอ้ว...จอร์จมันยอดมาก ซัดเบียร์ซัปโปโรไป ตบท้ายดัวยไวน์ เอิ๊ก...เมาซิ กลับไปนอนสบายใจ




เช้าสุดท้าย โดนกล่อมให้เล่นสกีต่อ ว่าจะหยุดแล้วไปเที่ยวเล่นชมเมืองบ้าง แต่ก็นะครูก็อยากให้เรียนเพราะเห็นว่าเริ่มเล่นได้แล้ว เลยเล่นก็เล่น วันนี้แดดดีมาก ฟ้าใสมองเห็นยอดเขาได้ชัดเจน หิมะก็เยี่ยมลื่นดี สกีได้แจ๋ว เมื่อวานหิมะตกพื้นมันฝืดสกีเหนื่อย วันนี้ดี อากาศ -10 แต่แดดจัดเลยพออุ่น วันนี้กลับไปเล่นที่ Kitanomine slope เครียดเบาๆ เพราะมีประสบการณ์ไม่ดีกับอิ slope นี้เลย แต่คราวนี้เราทำได้!! รอบแรกล้ม 1 ครั้ง รอบ 2 ไม่ล้มล่ะว๊อยยยย...สำเร็จ จะขึ้นรอบ 3 ซะหน่อยดันมีปัญหานิดหน่อยเกี่ยวกับตั๋ว Shared lift เลยเลิกดีกว่าใกล้เที่ยงแล้วด้วย วันนี้ต้องเลิกครึ่งวันเพราะบ่ายเก็บของแล้วเย็นก็กลับไปขึ้นเครื่องที่ Asahikawa ถ้าเล่นถึงบ่ายจะฉุกละหุกไปหน่อย แต่กรุ๊ปของ Ben กลับพรุ่งนี้ก็เล่นเต็มวันไป ร่ำลากับน้องๆและ Ben & Naoko ที่โรงอาหาร แล้วเราก็ออกเดินเล่นแวะโน่นนี่ไปเรื่อยระหว่างทางกลับบ้าน อย่างที่บอกว่าอากาศดีเลยเดินเล่นสบายใจ แวะจิบกาแฟร้านเล็กๆน่ารักบ้าง ถ่ายรูปบ้าง กว่าจะถึงบ้านแค่ใกล้ๆนี่ล่อไป ชม. นึง 555

จัดแจงแต่งตัวเก็บของเรียบร้อย บ่ายโมงฮิโรพาเข้ากลางเมืองไปหาข้าวกิน วนๆหาอยู่หลายร้าน มาลงที่ร้านอาหารญี่ปุ่นธรรมดา สั่ง Lunch set หน้าตาเหมือนอาหารญี่ปุ่นบ้านเรามากิน แต่รดชาดอร่อยอย่าบอกใคร กลับมาบ้านปล่อยอิฮิโรไปประชุมสักครึ่งชม. เลยได้รู้ว่าน้องคนนึงในกรุ๊ปโน้นล้มแล้วเจ็บเข่าต้องอุ้มลงมา กี๊ซซซ...อยากเห็น Ben อุ้มน้องแล้วสกีลงมา โฮ่...เท่ห์โคตร น้องเขาบอกไม่ไหวจะหาตั๋วกลับพร้อมเราวันนี้เลย เอาล่ะซิ ก็เลยหอบหิ้วกันขึ้นรถไปด้วย เราบอกกับฮิโรว่า “Ski is dangerous sport, Hiro” แต่มันเถียงง่ะมันว่า “No, no no. It’s easy” ชิ..ก็แกเล่นมา 3 ปีแล้วนี่หว่า

ระหว่างทางกลับ Asahikawa วิวสวยมาก เสียดายไม่ได้มีโอกาสมาเที่ยวแถวนี้ ครั้งหน้าต้องหาเวลาว่างขับรถเที่ยวเล่นบ้าง วิวยามเย็นตลอดทางจาก Furano ไป Bei จนถึง Asahikawa ทำให้หลงไหลได้ปลื้มเลยทีเดียว ฮิโรขับพามาทางผ่านหมู่บ้าน ไม่ใช่ถนนใหญ่เหมือนขามา เลยได้เห็นวิวสวยๆ เสียดายอีกทางแยกนึงฮิโรบอกทางเลาะเขาสวยดี แต่มันปิดเพราะหิมะท่วม แต่แค่นี้ก็ปลื้มแล้ว มาถึงสนามบินก่อนเวลาพอควรต้องวิ่งเต้นหาตั๋วให้น้องกลับ วุ่นวายพอควรแต่ก็ได้ในที่สุด....


Travel Tip:


o BKK – TOKYO คงต้องบิน เลือกเอาจะเอาสายการบินอะไรก็ได้มีเยอะแยะ

o TOKYO – HOKKAIDO เลือกได้จะบิน จะรถทัวร์ จะรถไฟ แนะนำให้ติดต่อการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อหาข้อมูล

o Hokkaido เป็นเกาะทางเหนือของญี่ปุ่นอากาศดี อาหารอร่อย สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้เป็นเดือน

o Furano เมืองเล็กๆ ไม่มีสนามบิน ชื่อเสียงโด่งดังช่วงฤดูร้อนเพราะมีทุ่งลาเวนเดอร์สวยงาม แต่หน้าหนาวก็เป็น Ski place ที่เยี่ยมแห่งหนึ่ง ที่ดังอีกที่คือ Niseko อยู่ห่างออกไปอีกราว 4-5 ชม. เป็นเมืองใหญ่กว่า Furano มี Ski resort ดีๆหลายแห่ง


o ทีพักมีหลายประเภท เช่น

@ Prince Hotel เป็นเหมือนเจ้าพ่อฟูราโน มีปรินซ์เก่า ปรินซ์ใหม่ เป็นเจ้าของพื้นที่ลานสกีที่ไปเล่นกันทุกวัน http://www.princehotels.co.jp/ski/furano_e/

@ Fresh powder hotel อยู่ตรงข้าม Kitanomine slope เลย http://www.freshpowder.com/

@ Tsuru apartment > เราเลือกพักที่นี่เป็นลักษณะอพาตเมนต์มีครัวให้ทำอาหารได้ อยู่สบายดีเดินไป Kitanomine slope ก็ไม่ไกล http://www.tsuru-apartments.com/english/

ถ้าไม่เล่นสกีทุกวัน บางคนก็พักที่ Asahikawa แล้วนั่งรถมาเที่ยวฟูราโนก็ได้ ห่างกันแค่ชม.เดียว

o ร้านอาหาร มีหลายร้านมาก เอาเท่าที่เราไปกินมา อร่อยทุกร้าน



o เกี่ยวกับสกี

@ ค่าเรียนสกีคิดเป็นจำนวนวันและคนที่เรียน เช่น เรียนคนเดียว 4 วัน 89,000 ¥ ถ้าเพิ่มมาอีก 1 คน 4 วันคิดอีก 21,000 ¥ แล้วมาหารแบ่งกัน ราคาประมาณนี้ เราเรียน 2 คนไป 2วัน เรียนเดี่ยวไปวันครึ่ง บวกลบคูณหารไปแบบงงๆ แบ่งกับเพื่อนเราออกไป 50,000 ¥ เพื่อนออกไป 40,000 ¥ ประมาณนั้น

@ ค่าเช่าอุปกรณ์ รองเท้า + สกี และ ค่าขึ้น lift & Gondola : http://www.princehotels.co.jp/ski/furano_e/fee.html



o สถานที่ท่องเที่ยวใน Furano http://www.furano-kankou.com/english/sightseeing.htm

o Furano Onsen http://www.furano-kankou.com/english/onsen.htm

o Furano Map http://www.snowfurano.com/map.htm






My Memory of Furano

1 comment: