Trip Feb. 2011 : Furano, Japan
ไปเล่นสกีที่ฟูราโนกันเถอะ <คลิ๊กเพื่อไปดูรูป>
เพื่อนชวนไปเล่นสกีตั้งแต่ปีก่อนโน้น พูดกันจนลืม ในที่สุดก็มาลงล็อคที่เดือนกุมภาฯปี 2011 นี่เอง ตัดสินใจอยู่นานเพราะบวกลบคูณหารแล้วค่าใช้จ่ายคงแพงโข...แต่ความรู้สึกเมื่อปลายปี 09 ที่ไปเดินเล่นนั่งเล่นอยู่ในสกีรีสอร์ที่เกาหลียังติดใจอยู่ วันนั้นบอกตัวเองว่า อยากเล่นสกี!!
เพื่อนจัดการเรื่องตั๋วและที่พักให้หมด เพราะเธอเคยไปมาก่อนแล้ว 1 ครั้ง แถมยังติดต่อครูสอนสกีไว้ให้ด้วย ไปเล่นที่ฮอกไกโดเกาะที่อยู่ทางเหนือสุดของญี่ปุ่นกันซิ สรุปรายละเอียดมาได้ง่ายๆว่า บินจากกรุงเทพฯไปโตเกียวแล้วต่อเครื่องไปอาซาฮิกาว่าแล้วต่อรถไปฟูราโน ~ Bangkok – Haneda – Asahikawa – Furano ~ หลายต่ออยู่นะ วันแรกตระเตรียมตัวสำหรับเรียนสกี วันที่สองเรียนสกี วันที่สามเรียนสกี วันที่สี่เรียนสกี วันที่ห้าเล่นสกี (คาดว่าน่าจะเป็นแล้วเลยใช้คำว่าเล่นแทนเรียน) กลับเครื่องตอนกลางคืน รายการมีแค่เนี๊ยะแหละ ง่ายๆ - -“
เราเลือกบินกับ ANA เครื่องออกตอนห้าทุ่มกว่า บินไปถึงสนามบินนานาชาติฮาเนดะตอนเช้ามืด ก่อนเครื่องลงท่านกัปตันแจ้งว่าอุณหภูมิเบาะๆแค่ 1 องศา เท่านั้นจึงจัดแจงใส่เลคกิ้งเตรียมพร้อม เสื้อโค๊ทเดี๋ยวค่อยเอาตอนรับกระเป๋าก็ได้ เพราะสำหรับคนต่อเครื่องต้องลงมารับกระเป๋าแล้วลากไปเช็คอินที่เคาเตอร์อีกครั้ง ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่เช็คยาวไปเลยเพราะที่นั่งก็ระบุมาหมดแล้ว แต่มันก็แค่ใกล้ๆลงมาแค่ชั้นเดียว เช็คอินเสร็จก็เดินไปขึ้นรถ shuttle bus ไปสนามบินภายในประเทศ ถึงภาษาอังกฤษจะไม่เลิศเลอ แต่ระบบการจัดการ การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวของญี่ปุ่นก็ดีมากทีเดียว มีทำใบปลิวแจก อธิบายจุดรอรถขึ้นรถให้นักท่องเที่ยวทุกคนชัดเจน
มีเวลาอยู่ที่สนามบินประมาณ 2 ชม.กว่า เลยเดินดูของซึ่งล้วนเป็นขนมทั้งนั้น น่ากินมากๆทุกร้านทุกตู้ ซื้อติดไปบ้างเอาไว้กินเล่นกัน ทั้ง Cheese cake ทั้งโมจิ ทั้งคุ๊กกี้ ขนมปัง ชูครีม โอย...อร่อย เดินชิมไปทุกร้าน หอมหวลจริงๆ แต่ราคาไม่ค่อยมิตรภาพเท่าไหร่ กล่องละ 1,000 – 3,000 เยนทั้งนั้น ตกประมาณ 400 บาทขึ้น ร้านมีให้เลือกเต็มไปหมด ล้วนทำสดๆหอมๆ ใครจะอดใจไหว
ถึงเวลาไปขึ้นเครื่องเพื่อไป Asahikawa เมืองใหญ่กลางเกาะฮอกไกโด (Hokkaido) ใช้เวลาบินชม.กว่าๆก็มาถึงตรงเวลา "ฮิโรชิซัง"หนุ่มยุ่นร่างเล็กกระทัดรัดเจ้าของอพาตเมนต์ขับรถมารับเราที่สนามบิน รถมินิแวนพาพวกเรา 4 สาวออกจากสนามบินมุ่งตรงไปฟูราโน ช่วงแรกช่างตื่นตาตื่นใจกับสีขาวของหิมะที่ปกคลุมไปทั่ว
อากาศวันนี้ 1 องศา ตามท่านกัปตันบอกจริงๆ จะว่าหนาวมากก็ไม่เชิงเพราะเสื้อผ้าเตรียมมาพร้อม เสื้อยืดแขนยาว 1 ตัว pull over 1 ตัว แล้วก็โค๊ท 1 ตัว ใส่เลคกิ้งตัวที่ซื้อจากเกาหลีแล้วทับด้วยกางเกงยีนส์ แค่นี้ก็อุ่นพอ (เลคกิ้งซื้อเมืองไทยมันไม่อุ่นจริงๆ บางเกิน)
นั่งไป 1 ชม.จวนเจียนจะหลับก็มาถึงฟูราโน เมืองเล็กๆชื่อเสียงโด่งดังในฤดูร้อนเพราะมีทุ่งลาเวนเดอร์เป็นจุดขาย (แล้วพวกเรามาทำไรฤดูหนาวล่ะเนี่ย - -‘) ภาระกิจแรกบอกฮิโรว่าโคตรหิว ฮิโรเลยพาไปซัดราเม็งคนละชาม ราเม็งแท้ๆที่ญี่ปุ่นอร่อยกว่าที่เคยกินในเมืองไทยเยอะ...จริงๆนะ... อิ่มแปร้ก็ไปแวะซุปเปอร์ซื้อเสบียงกรังไว้ทำอาหารกินง่ายๆบางมื้อ ถือโอกาสซื้อของฝากเล็กๆน้อยๆด้วยของกินแปลกๆเพียบ ญี่ปุ่นนี่ช่างทำจริงๆ เสร็จจากซุปเปอร์ ฮิโร่พาไปเลือกซื้ออุปกรณ์เล่นสกีเพิ่มเติมในส่วนที่ขาด เช่น แว่นหรือถุงมือ กางเกงเราซื้อมาจาก MBK ในราคาพันกว่าบาท แก๊ะมาซื้อที่นี่โดนไป 3,000 กว่าบาท แต่เป็น northface ของแท้นะ แพงแต่ดี ได้ของครบครันถึงจะได้เข้าบ้าน จะมีเจ้าของอพาตเมนต์ที่ไหนให้เราเรียกใช้ได้ขนาดนี้ ช่างน่าประทับใจจริง ฮ่าๆๆๆ
นั่งไป 1 ชม.จวนเจียนจะหลับก็มาถึงฟูราโน เมืองเล็กๆชื่อเสียงโด่งดังในฤดูร้อนเพราะมีทุ่งลาเวนเดอร์เป็นจุดขาย (แล้วพวกเรามาทำไรฤดูหนาวล่ะเนี่ย - -‘) ภาระกิจแรกบอกฮิโรว่าโคตรหิว ฮิโรเลยพาไปซัดราเม็งคนละชาม ราเม็งแท้ๆที่ญี่ปุ่นอร่อยกว่าที่เคยกินในเมืองไทยเยอะ...จริงๆนะ... อิ่มแปร้ก็ไปแวะซุปเปอร์ซื้อเสบียงกรังไว้ทำอาหารกินง่ายๆบางมื้อ ถือโอกาสซื้อของฝากเล็กๆน้อยๆด้วยของกินแปลกๆเพียบ ญี่ปุ่นนี่ช่างทำจริงๆ เสร็จจากซุปเปอร์ ฮิโร่พาไปเลือกซื้ออุปกรณ์เล่นสกีเพิ่มเติมในส่วนที่ขาด เช่น แว่นหรือถุงมือ กางเกงเราซื้อมาจาก MBK ในราคาพันกว่าบาท แก๊ะมาซื้อที่นี่โดนไป 3,000 กว่าบาท แต่เป็น northface ของแท้นะ แพงแต่ดี ได้ของครบครันถึงจะได้เข้าบ้าน จะมีเจ้าของอพาตเมนต์ที่ไหนให้เราเรียกใช้ได้ขนาดนี้ ช่างน่าประทับใจจริง ฮ่าๆๆๆ
ตื่นเช้ามาได้กลิ่นแกงกระหรี่หอมเตะจมูก ก็แก๊ะเริ่มทำแกงกระหรี่หม้อใหญ่ซิ เอาไว้กินกันหลายๆวัน เช้านี้เลยซัดข้าวแกงกะหรี่ไก่เพิ่มพลัง พร้อมออกไปลานสกีล่ะ Kitanomine slope อยู่ไม่ไกลจากบ้าน เดินไปเรื่อยๆก็ถึง ร้านที่เราติดต่อเช่าอุปกรณ์สกีไว้ คือรองเท้าและสกีก็อยู่ตรงข้ามสโลปนี่แหละ อิรองเท้าสกีนี่มันใส่ยากมากใส่แล้วเดินก็ยาก ยังกะโรโบคอป แถมต้องแบกอุปกรณ์ข้ามถนนเดินขึ้นเนินไปรอฮิโร แค่แบกมาแค่นี้ก็หอบลิ้นห้อยแล้วนะ บนลานสกี มีเด็กนร.มาเรียนสกีกันเต็ม แบ่งเป็นกรุ๊ปๆละ 5-10 คน เขาว่าเป็นคลาสเรียนเลย ก็ไม่แปลกฤดูนี้จะให้ไปเล่นกีฬาอะไรได้
วันนี้ครูสกียังไม่มา เพราะเราเลื่อน flight มาเร็วไป 1 วัน ครูยังติดงานอยู่ที่ Niseko วันนี้ฮิโร่จะสอนเอง ฮิโร่เองก็เป็น Ski instructor ด้วยเหมือนกัน กรุ๊ปเรา 4 คน เล่นสกี 3 คน แถมเก๋เล่นเป็นแล้วจากปีก่อน ก็เลยต้องมาเล่นวนๆเวียนๆอยู่ใกล้ๆกับ beginner 2 คน เราก็เริ่มหัดตั้งแต่ใส่สกี ขาเดียว แล้วก็ 2 ขา เริ่มเดิน เริ่มสไลด์ และวิธีหยุดสกีเวลามันเคลื่อนที่ ฮิโร่เรียกว่า “ทำพิซซ่า” คือการกางขาออกแต่ชี้ปลายเท้าเข้าหากันเป็นสามเหลี่ยมนั่นคือการหยุด ทั้งเช้าอิ่มทำพิซซ่า ยังไม่สำเร็จ ล้มกลิ้งกันเป็นพักๆ ฮิโรที่ดูเป็นคนง่ายๆเอาแต่ยิ้ม พอมาเป็น instructor แล้วดูจริงจังมาก ฮีเครียดเราก็เครียด จบครึ่งเช้ายังไม่ได้ไรเป็นชิ้นเป็นอัน พักเข้าไปซัดราเมงร้อนๆในโรงอาหาร ตกบ่ายฮิโรเหมือนไปกินยาโด๊ปมา วิ่งเข้ามายิ้มเผล่บอกว่า I change my mind, we will go to share lift!! นั่นคือนั่งลิฟต์ขึ้นไปด้านบน!! แม่เจ้ากรูยังเล่นไม่เป็น....
คืนนี้เราแยกกันนะฮิโร เค้าเครียด....พวกเราเลยไปหาข้าวกินกันเอง กับน้องๆที่ตามมาสมทบอีก 3 คน กินชาบูชาบู กับปลาย่าง อร่อยใช้ได้ กลับบ้านไปนอนกลิ้ง เครียดก็เครียด พรุ่งนี้จะเป็นยังไงว๊า....
ตื่นมาซัดข้าวแกงกะหรี่เหมือนเดิม พร้อมรบ! ออกไปลานสกีที่เดิม วันนี้ได้ครูสกี 2 คน คู่สามีภรรยา Ben เป็นชาวนิวซีแลนด์ Naoko เป็นญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษเริ่ดทั้งคู่เพราะเรียนอังกฤษมา เราได้ Naoko มาสอน ส่วน Ben ไปสอนน้อง 3 คน ฮิโรก็เลยได้พาเก๋ไปสกีด้านบนได้สบายใจ
เช้านี้ก็ refresh ใหม่อีกรอบ แล้วก็ซ้อมเลี้ยวซ้อมหยุด เรียนอยู่ด้านล่าง ล้มบ้างพอเป็นพิธี แล้วก็ตัดสินใจขึ้นลิฟต์ไปอีกครั้ง ยังเล่นๆล้มๆอยู่แต่ดีกว่าเมื่อวานหน่อย ลงมาได้ 3 ใน 4 ของ Slope สุดท้ายแก๊ะหมดแรง นาโอโกะต้องพาลงอีกเช่นเคย แต่นาโอโกะใช้วิธีเสียวน้อยกว่าฮิโรหน่อย ชีให้แก๊ะอยู่ด้านหน้าเราอยู่ด้านหลังแล้วก็สกีลงแบบแซนด์วิช โฮ่ๆๆๆ มันเจ๋งมาก! ตกบ่าย Ben & Naoko วิเคราะห์แล้วว่า Kitanomine slope นี้มันอาจจะยากไปสำหรับ Beginner เลยย้ายไปเรียนที่ Prince slope แทน
โชคไม่ช่วยเพื่อนเราที่เรียนด้วยกัน แค่ลง lift ก็ล้มกลิ้งมาทับกันซะแล้ว คราวนี้ขาไขว้ไปมา หลังจากครูช่วยกันงัดเรา 2 คนแยกจากกัน เราตรวจร่างกายแล้วสบายดี แต่แก๊ะบอกเจ็บข้อเท้า เลยไปนั่งพักก่อนบอกขอรอดูอาการ เราเลยไปกับนาโอโกะก่อน 1 รอบ
slope ที่นี่ไม่โหดอ่ะ เหมาะสำหรับหัดจริงๆ ยังล้มบ้างนิดหน่อยแต่เริ่ม control ได้มากขึ้น วนขึ้น lift กลับมา แก๊ะส่ายหน้าบอกไม่ไหว เลยต้องเรียก patrol มาเอาตัวลง ได้นอนลากเลื่อนลงอย่างเท่ห์ คราวนี้เราเลยได้เรียนแบบเข้มข้น 1 ต่อ 1 เลย รู้สึกดีขึ้นเล่นได้ดี แต่ช่วงบ่ายหิมะตกหนักจริงๆ ต้องเข้าไปพักสักระยะ เพราะตััวอุ่นมืออุ่นแต่แก้มกับปากจะแข็งเอา ฮิโรพาเพื่อนอีกคนขึ้นกอนโดล่าไปเล่นที่ความสูงสองพันกว่าเมตร ถ่ายรูปลงมาดูหิมะท่วมถึงเข่า ยังสกีเล่นกันสนุกสนาน คืนนี้นอนหมดแรง นาโอโกะแนะนำว่าให้แช่น้ำอุ่นอย่าอาบฝักบัวจะได้คลายกล้ามเนื้อด้วย เลยแช่ขาไปสัก 1/2 ชม. ใช้ได้เลย..
เช้าที่สาม ตื่นมาเตรียมตัว ถึงเวลานัดฮิโรตอนแปดโมง เพราะจะไป prince slope มันไกลเดินไม่ไหว ฮิโรจะเอารถไป ถึงเวลาเปิดประตูออกมา ตกใจ!! หิมะท่วมหน้าบ้าน สงสัยเมื่อคืนตกหนักวุ๊ย ฮิโรนุ่งกางเกงสกีสีแดงตัวเก่งกวาดหิมะหน้าเครียด พร้อมบอกว่าเลื่อนเวลาสัก 1 ชม.นะ Ben&Naoko ก็ต้องกวาดหิมะหน้าบ้านเหมือนกัน
ระหว่างฮิโรกับเพื่อนบ้านต่างคนต่างกวาดหิมะหน้าเครียด พวกเราก็ตื่นเต้นเดินเล่นถ่ายรูปกันสนุกสนานไป หิมะสูงท่วมเข่าเคยเจอซะที่ไหน รถกวาดหิมะของเมืองก็เริ่มมากวาดถนนแล้ว ไม่งั้นคงขับรถไปไหนไม่ได้ เห็นแต่ละบ้านออกมากวาดหิมะแบบหน้าตายังไม่ตื่นกันทั้งนั้น คิดๆก็น่าสงสารเหมือนกัน วันนี้ -10 นะแต่เราไม่หนาวเท่าไหร่แฮะ สงสัยจะชินแล้วมั๊ง
คืนนี้นัดแนะกับฮิโรไว้ให้ทำกับข้าวให้กิน เพราะได้ยินชื่อเสียงว่าฮีทำอาหารอร่อย จริงๆที่พักของฮิโรด้านล่างเขียนว่า Restaurant นะ แต่เปิดเฉพาะเวลาพ่อครัวว่างหรือพ่อครัวโดนรีเควสเท่านั้น 555 เราเลยขอรีเควสสักมื้อ เก๋บอกว่าปีก่อนฮิโรก็จัดปาร์ตี้ให้ ปีก่อนมีหอยเชลล์ มีปูฮอกไกโดด้วย โอ้ว...แม่เจ้า...อยากกิน แต่ปีนี้ไม่ีมีอ่ะ ฮีเลยทำสุกี้ เนื้อ หมู และแกะให้ พร้อมเทมปุระกุ้งตัวโต โอ้ว...จอร์จมันยอดมาก ซัดเบียร์ซัปโปโรไป ตบท้ายดัวยไวน์ เอิ๊ก...เมาซิ กลับไปนอนสบายใจ
เช้าสุดท้าย โดนกล่อมให้เล่นสกีต่อ ว่าจะหยุดแล้วไปเที่ยวเล่นชมเมืองบ้าง แต่ก็นะครูก็อยากให้เรียนเพราะเห็นว่าเริ่มเล่นได้แล้ว เลยเล่นก็เล่น วันนี้แดดดีมาก ฟ้าใสมองเห็นยอดเขาได้ชัดเจน หิมะก็เยี่ยมลื่นดี สกีได้แจ๋ว เมื่อวานหิมะตกพื้นมันฝืดสกีเหนื่อย วันนี้ดี อากาศ -10 แต่แดดจัดเลยพออุ่น วันนี้กลับไปเล่นที่ Kitanomine slope เครียดเบาๆ เพราะมีประสบการณ์ไม่ดีกับอิ slope นี้เลย แต่คราวนี้เราทำได้!! รอบแรกล้ม 1 ครั้ง รอบ 2 ไม่ล้มล่ะว๊อยยยย...สำเร็จ จะขึ้นรอบ 3 ซะหน่อยดันมีปัญหานิดหน่อยเกี่ยวกับตั๋ว Shared lift เลยเลิกดีกว่าใกล้เที่ยงแล้วด้วย วันนี้ต้องเลิกครึ่งวันเพราะบ่ายเก็บของแล้วเย็นก็กลับไปขึ้นเครื่องที่ Asahikawa ถ้าเล่นถึงบ่ายจะฉุกละหุกไปหน่อย แต่กรุ๊ปของ Ben กลับพรุ่งนี้ก็เล่นเต็มวันไป ร่ำลากับน้องๆและ Ben & Naoko ที่โรงอาหาร แล้วเราก็ออกเดินเล่นแวะโน่นนี่ไปเรื่อยระหว่างทางกลับบ้าน อย่างที่บอกว่าอากาศดีเลยเดินเล่นสบายใจ แวะจิบกาแฟร้านเล็กๆน่ารักบ้าง ถ่ายรูปบ้าง กว่าจะถึงบ้านแค่ใกล้ๆนี่ล่อไป ชม. นึง 555
จัดแจงแต่งตัวเก็บของเรียบร้อย บ่ายโมงฮิโรพาเข้ากลางเมืองไปหาข้าวกิน วนๆหาอยู่หลายร้าน มาลงที่ร้านอาหารญี่ปุ่นธรรมดา สั่ง Lunch set หน้าตาเหมือนอาหารญี่ปุ่นบ้านเรามากิน แต่รดชาดอร่อยอย่าบอกใคร กลับมาบ้านปล่อยอิฮิโรไปประชุมสักครึ่งชม. เลยได้รู้ว่าน้องคนนึงในกรุ๊ปโน้นล้มแล้วเจ็บเข่าต้องอุ้มลงมา กี๊ซซซ...อยากเห็น Ben อุ้มน้องแล้วสกีลงมา โฮ่...เท่ห์โคตร น้องเขาบอกไม่ไหวจะหาตั๋วกลับพร้อมเราวันนี้เลย เอาล่ะซิ ก็เลยหอบหิ้วกันขึ้นรถไปด้วย เราบอกกับฮิโรว่า “Ski is dangerous sport, Hiro” แต่มันเถียงง่ะมันว่า “No, no no. It’s easy” ชิ..ก็แกเล่นมา 3 ปีแล้วนี่หว่า
ระหว่างทางกลับ Asahikawa วิวสวยมาก เสียดายไม่ได้มีโอกาสมาเที่ยวแถวนี้ ครั้งหน้าต้องหาเวลาว่างขับรถเที่ยวเล่นบ้าง วิวยามเย็นตลอดทางจาก Furano ไป Bei จนถึง Asahikawa ทำให้หลงไหลได้ปลื้มเลยทีเดียว ฮิโรขับพามาทางผ่านหมู่บ้าน ไม่ใช่ถนนใหญ่เหมือนขามา เลยได้เห็นวิวสวยๆ เสียดายอีกทางแยกนึงฮิโรบอกทางเลาะเขาสวยดี แต่มันปิดเพราะหิมะท่วม แต่แค่นี้ก็ปลื้มแล้ว มาถึงสนามบินก่อนเวลาพอควรต้องวิ่งเต้นหาตั๋วให้น้องกลับ วุ่นวายพอควรแต่ก็ได้ในที่สุด....
Travel Tip:
o BKK – TOKYO คงต้องบิน เลือกเอาจะเอาสายการบินอะไรก็ได้มีเยอะแยะ
o TOKYO – HOKKAIDO เลือกได้จะบิน จะรถทัวร์ จะรถไฟ แนะนำให้ติดต่อการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อหาข้อมูล
o Hokkaido เป็นเกาะทางเหนือของญี่ปุ่นอากาศดี อาหารอร่อย สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้เป็นเดือน
o Furano เมืองเล็กๆ ไม่มีสนามบิน ชื่อเสียงโด่งดังช่วงฤดูร้อนเพราะมีทุ่งลาเวนเดอร์สวยงาม แต่หน้าหนาวก็เป็น Ski place ที่เยี่ยมแห่งหนึ่ง ที่ดังอีกที่คือ Niseko อยู่ห่างออกไปอีกราว 4-5 ชม. เป็นเมืองใหญ่กว่า Furano มี Ski resort ดีๆหลายแห่ง
o ทีพักมีหลายประเภท เช่น
@ Prince Hotel เป็นเหมือนเจ้าพ่อฟูราโน มีปรินซ์เก่า ปรินซ์ใหม่ เป็นเจ้าของพื้นที่ลานสกีที่ไปเล่นกันทุกวัน http://www.princehotels.co.jp/ski/furano_e/
@ Fresh powder hotel อยู่ตรงข้าม Kitanomine slope เลย http://www.freshpowder.com/
@ Tsuru apartment > เราเลือกพักที่นี่เป็นลักษณะอพาตเมนต์มีครัวให้ทำอาหารได้ อยู่สบายดีเดินไป Kitanomine slope ก็ไม่ไกล http://www.tsuru-apartments.com/english/
ถ้าไม่เล่นสกีทุกวัน บางคนก็พักที่ Asahikawa แล้วนั่งรถมาเที่ยวฟูราโนก็ได้ ห่างกันแค่ชม.เดียว
o ร้านอาหาร มีหลายร้านมาก เอาเท่าที่เราไปกินมา อร่อยทุกร้าน
o เกี่ยวกับสกี
@ ค่าเรียนสกีคิดเป็นจำนวนวันและคนที่เรียน เช่น เรียนคนเดียว 4 วัน 89,000 ¥ ถ้าเพิ่มมาอีก 1 คน 4 วันคิดอีก 21,000 ¥ แล้วมาหารแบ่งกัน ราคาประมาณนี้ เราเรียน 2 คนไป 2วัน เรียนเดี่ยวไปวันครึ่ง บวกลบคูณหารไปแบบงงๆ แบ่งกับเพื่อนเราออกไป 50,000 ¥ เพื่อนออกไป 40,000 ¥ ประมาณนั้น
@ ค่าเช่าอุปกรณ์ รองเท้า + สกี และ ค่าขึ้น lift & Gondola : http://www.princehotels.co.jp/ski/furano_e/fee.html
o สถานที่ท่องเที่ยวใน Furano http://www.furano-kankou.com/english/sightseeing.htm
o Furano Onsen http://www.furano-kankou.com/english/onsen.htm
o Furano Map http://www.snowfurano.com/map.htm
hi
ReplyDelete