Sep 13, 2013

Sydney Trip …. ฉันมาทำอะไรที่(ซิด)นี่

Sydney Trip …. ฉันมาทำอะไรที่(ซิด)นี่(ย์)

Trip: June 2013

ตามชื่อเรื่องเลย ด้วยว่ามีพี่ๆน้องๆเค้ารวมตัวกันจะไปเที่ยวเมลเบิร์น-ซิดนีย์ เขาวุ่นวายเตรียมเอกสารขอวีซ่า
กัน ไอ้เราก็เลยไปเปิดพาสปอร์ตดูวีซ่าที่เคยขอตอนไปทัสมาเนียปลายปีก่อน เพิ่งจะเห็นว่ามันเป็น Multiple 6 เดือน จะหมดอายุกันยายนแน่ะ ก็นึกอยากเก็บกระเป๋าตามพี่ๆน้องๆไปออสเตรเลียด้วยทันควัน ง่ายๆอย่างนี้แหละ!

แรกเริ่มต้องไปตั้งต้นที่เมลเบิร์นก่อนนะเพราะพี่ที่ไปด้วยเค้ามีน้องชายทำงานอยู่ที่โน่นก็เลยถือโอกาสไปเยี่ยมสักหน่อยก่อน นับญาติไปมาฮามากน้องชายพี่เค้าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนกะแฟนเราเฉยเลย โลกกลมจริงๆ พวกเราเลือกบินไปกลับซิดนีย์วันแรกต้องไปต่อเครื่องเพื่อไปเมลเบิร์น นึกว่าจะตกเครื่องเสียแล้วเพราะขาไปดีเลย์ไปเกือบ 2 ชม. แต่สุดท้ายมันก็ทัน ถึงจะบินภายในประเทศสายการบินเดียวกันก็ไม่สามารถเช็คยาวไปเลยได้ ต้องรับกระเป๋าออกมาแล้วลากกระเป๋าออกไปเทอร์มินอลข้างๆเพื่อเช็คอินใหม่!! ใครจะไปต่อเครื่องที่ซิดนีย์ให้เผื่อเวลาด้วย ของเราถือว่าโชคดีมาก เพราะจากที่กะให้มีเวลาล้างหน้าแปรงฟันกินข้าวก่อนต่อเครื่องสบายๆกลายเป็นเวลาเหมาะเจาะมากลากกระเป๋ามาบอร์ดเลย 55

Photo Gallery 'Australia 2013' at pbase.com


.
.

Melbourne Day 1

เมลเบิร์น!!! ฉันคิดถึงเธอ แต่เธอเล่นเอาฝนมาถล่มจนฉันเครียดเลย ดีว่าน้องชายพี่เค้าเอารถมารับไปเช็คอินโรงแรมกัน แล้วเจ้าถิ่นก็พามาแวะตรอกแห่งศิลปะ Hosier Lane ที่เค้าภูมิใจนำเสนออย่างมาก เออ..แฮะ ถ้าไม่มีเจ้าถิ่นพามาก็ไม่รู้หรอกนะ มันก็สวยจริง เสียอย่างเดียวฝนตก! แต่มาแล้วก็ต้องเดินชม แอ๊กท่าถ่ายรูปกันไปแบบเปียกๆ ดูแล้วขนาดตากล้องยังพานางแบบออกมาถ่ายแบบกลางฝนเลย เราก็บ่ยั่นแหละ

เที่ยงนี้ไปกินอาหารจีนแถวไชน่าทาวน์กัน อร่อยเหมือนคราวก่อนเลยกินกันจนอิ่ม ฝนก็ยังไม่หยุดตก เลยต้องเป็นการขับรถเล่นชมเมืองแทนการเดินเล่น เจ้าถิ่นขับพาวนไปตรงโน้นตรงนี้ มีแวะซื้อวิตามินด้วยเพราะวันนี้มันวันอะไรไม่รู้ ร้านขายยาลดราคาวิตามินแบบ 50% กันเลย ลดวันสุดท้ายด้วย เลยลงไปกวาดกันมาคนละ 4-5 กระปุก

แผนแรกว่าจะหาซื้อเครื่องดื่มเย็นๆไปนั่งจิบแถบ St.Kilda  แต่ฝนมันก็ไม่หยุด จิบกันไประหว่างทางพอถึงก็หมดพอดี 555 เลยลงไปเดินรับลมกันนิดหน่อยไม่ไหวล่ะหนาว  นัดแนะกับเจ้าถิ่นไว้ว่าเจ้าถิ่นจะพาไปดูเพนกวินเดินกลับรังแบบฟรีๆ ที่คราวก่อนเราต้องขับรถไปเสียเงินดูถึงเกาะฟิลลิปส์นั่นแหละ เจ้าถิ่นบอกว่าโน่นนนนน แถว St.Kilda ตรงปลายแหลมโน่นมี แต่ว่าฝนมันยังลงปรอย จะเดินกันออกไปดูก็คงไม่ไหวนะ เสียดายจริงๆเลย วนไปวนมากลับโรงแรมนอนดีกว่า เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว

.
.

Melbourne Day 2

เช้านี้อากาศดีผิดกับเมื่อวานเลยทีเดียวแฮะ...เดินเที่ยวเล่นกันไปเรื่อยเปื่อย จากตรง Town hall เดินผ่านโบสถ์ไปถึง Flinders Station ได้สบายๆ ถ่ายรูปได้ตลอดทาง ตึกสวย สถานีรถไฟก็สวย สังเกตุว่าคนเมืองนี้ขี่จักรยานกันเยอะมาก ตามจุดท่องเที่ยวใหญ่ๆ จะมีจักรยานจอดให้หยอดเหรียญเอาไปใช้ด้วย ทำแผนการท่องเที่ยวเหมือนฟินแลนด์เลย พื้นฐานคนเขาคงไม่ขี้ขโมยแบบไทยด้วยละมังนะ

มีบางคนอยากไป Aquarium แต่เราขอบายเพราะเพิ่งดูมาคราวก่อน แต่เดินชมเมืองไปทั่ว อากาศอย่างนี้มันสุดยอดเลย แดดดีฟ้าใส เหมือนคนละประเทศกับเมื่อวาน

เมลเบิร์นเมืองเป็นสี่เหลี่ยม เดินหรือนั่งรถราง(ฟรี) รอบๆก็ได้ มีตึกมีพิพิธภัณฑ์สวยๆให้เดินเล่นเพียบเลย เย็นๆไปจบแถบริ้มแม่น้ำยารา (Yarra River) ก็ดีนะ บรรยากาศดีมากๆ ดูแผนที่เอาไม่ยาก > แผนที่เมลเบิร์น




.
...
.
.

Sydney ที่ฉันมาทำไม...

ออกจากเมลเบิร์นด้วยเที่ยวบินเช้า ไปถึงซิดนีย์สายๆอากาศยังคงขมุกขมัว ฝนลงพรำๆ เช็คอินโรงแรมเสร็จก็ออกเที่ยวเล่นกัน เรามีเจ้าถิ่นคนใหม่คือน้องนก มาหาและพาเราเดินเล่นแถบโรงแรม พาไปซื้อร่มกันก่อนเพราะทำหายที่เมลเบิร์น เลยแวะซื้อกันคนละคันไปเลย ร่มคันละ 7.29AUD เลยนะ ขอบอกว่ามันห่วยเหอะวันแรกนี่พังไปเลย 1 คันจากนั้นก็ ขึ้นรถไฟไปลงสถานี Milsons Point Station. บนสถานีจะมีมุมที่มองเห็น Sydney Harbour Bridge ได้ ถ่ายรูปกันเลยนะ เดี๋ยวขากลับจะมืดอดถ่าย  ออกจากสถานีลงมาที่ถนนเดินไปตามทางไม่ไกลเพื่อไปลูนาร์พาร์ค (lunar Park)  ที่นี่เป็นสวนสนุกริมอ่าว เป็นจุดชมวิวโอเปร่าเฮ้าส์และฮาเบอร์บริดจ์ได้ดีจุดหนึ่งเลย แต่ไกลไปหน่อย ในสวนสนุกไม่ได้มีเครื่องเล่นไรมากนัก เหมือนพวกคาราวานสวนสนุกเล็กๆที่มาเปิดงานชั่วคราวเลย ไปยืนริมอ่าวชมวิวลมพัดแรงมว๊ากกกก หนาวลมสุดๆไปเลย พอเริ่มมืดผู้คนมายืนรอดู Vivid of Sydney กัน จุดนี้เป็นจุดชม Light&Sound ของ Opera House ได้ แต่วันนี้ฝนลงปรอยๆบรรยากาศไม่เป็นใจเลยจริงๆ ยืนดูอยู่พักนึงไม่เห็นมันจะสวยเหมือนในรูปเลยให้ตายเถอะ (จริงๆแล้วไปดูจากตรง The Rock จะใกล้กว่า อาจสวยกว่าก็ได้นะ)


ปล. Vivid of Sydney เป็นเทศกาลหนึ่งของซิดนีย์ที่จัดมาให้เกิดความคึกคักสวยงามในซิดนีย์ มีการจัดตกแต่งแสงสีเสียงที่โน่นที่นี่หลายที่ ต้องไปเปิดเวปของเค้าดูรายการ โชคดีที่เรามาอยู่ในช่วงงานพอดี (ปีนี้งานมีวันที่ 24 พค. – 10 มิย.) แต่แค่จุดแรกก็ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่แล้วอ่ะ

Sydney Day 2

วันที่ 2 ในซิดนีย์ฝนลงอย่างต่อเนื่อง แต่ทำยังไงได้ ก็ต้องออกเที่ยวกันล่ะค่ะ ก็ไปทุกจุดที่นักท่องเที่ยวเค้าไปกันนั่นแหละ ไปมันทั้งเปียกๆนี่แหละ มีหลายคนเลยนั่งแท็กซี่ซะส่วนใหญ่หารกันแล้วก็พอไหว ขี้เกียจเดิน 555


ตอนเย็นเรามีเจ้าถิ่นใหม่อีกคน หลังจากพวกเราเดินชมวิวดาลิ่งฮาเบอร์จนขาจะเดี้ยงแล้วจากฝนตกจนฝนหยุด เริ่มมีแดดออกมาให้ชื่นใจ น้องคนหนึ่งมีเพื่อนทำงานอยู่ที่นี่ เธอเลยโทรตามนางมาหา นางเลยพาเราไปเดินเที่ยวเดอะร็อค โดยไปเริ่มเดินที่ Circular Quay ชมโอเปร่าเฮาส์ ยามเย็น และเดินไปที่ตลาดนัดซึ่งมันมีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์นะ เดินเล่นแต่ของซื้อไม่ลงค่ะ แพง 555 จากนั้นนางพาเราแวะชิมของอร่อยที่มาเดอะร็อคต้องไม่พลาดที่ร้าน ‘Pancake on The Rock’  นางว่าปกติคิวยาวเหยียด พวกเราไปโชคดีอีกล่ะ ไปถึงมีแค่ 2-3 คิว แป๊บเดียวได้นั่ง สั่งไฮไลต์มาชิม 3 อย่าง มันอร่อยจริงๆสมคำร่ำลือ  นั่งไปสักพักได้ยินเสียงกระหน่ำด้านนอกนับว่าโชคดี 2 ต่อเพราะฝนลงอย่างหนักเลย นั่งโอ้เอ้จนเสียงฝนหยุดกลับออกมาถึงได้พบความจริงว่าแถวยาวมว๊ากกก วนขึ้นบันไดไปชั้นบนเลย

ที่เที่ยวในซิดนีย์ไปไม่ยากเลยนะ ดูตามแผนที่นี่ ใครอยากไปรถไฟก็ลงตามสถานีนั้น หรือใครอยากซื้อ 1-day pass ก็ได้ มันจะมี Tourist bus แบบ Hop-on Hop-off ที่โดดขึ้นลงได้ทุกๆจุดก็สะดวกดี แต่วันนั้นฝนตกเราเลยไม่เอานะ ไม่คุ้ม ภาวนาให้วันพรุ่งนี้อากาศดีสักทีเถอะ
.
.

Sydney Day 3

วันนี้ตื่นสายมากอ่ะ กว่าจะคิดโน่นนี่นั่น ต้องเลือกว่าจะไปไหนกัน เราอยากไป Blue Mountain แต่สรุปกันว่าไป Port Stephens ก็ได้ๆ แต่ด้วยว่าคิดกันก็สาย คนเราก็เยอะอยู่คือ 5 คน เลยตัดสินใจเดินไปเช่ารถขับอ่ะ เตรียมใบขับขี่สากลมาเพราะ เคยเช่าที่ทัสมาเนียแล้วสะดวกสบายมาก แต่พอมาที่นี่มันไม่รับอ่ะ งงมาก มันจะเอาใบขับขี่ตัวจริงของไทย บัตรแข็งน่ะ ที่โมโหเพราะตอนแรกลืมหยิบใบขับขี่สากลมาจากโรงแรม ต้องเดินกลับไปเอา เดินขึ้นเนินไปขาลากเดินกลับมาให้มันดูมันไม่เอา!!! ตอนแรกจะถอดใจล่ะ พอดีมีน้องคนนึงชีพกใบขับขี่มา เลยยื่นให้มันดู มันบอกโอเค!! เฮ้ย ไรวะ...อ่านไม่ออกแต่จะเอาแบบนี้นึกว่าเป็นแค่ Budget เลยลองไปถามที่ Thirfty ที่เคยเช่าได้ก็เหมือนกัน เลยเอา Thirfty ถูกกว่าอีก งงมาก สรุปว่า ใครไปซิดนีย์หากอยากเช่ารถพกใบขับขี่ติดไปด้วยนะ อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเค้าเอาไปมันจะเอามั๊ยเพราะเป็นบัตรกระดาษติดรูปแบบเก่า ไม่ใช่บัตรแข็งพลาสติคแบบของน้องเค้า 555

ดู๊ดูดู มันให้ขับไปถึงหมุดเขียวโน่น
แล้วจะให้ว่ายน้ำข้ามมาหรือยังไงกัน!
Port Stephens อยู่ทางเหนือของ Sydney ไปตาม Pacific Highway ขับด้วยความเร็วตามกม.กำหนด ก็ใช้เวลาประมาณ 2.30ชม. ระหว่างทางก็อ่านข้อมูลท่องเที่ยวไปเรื่อย Port Stephens เป็นที่ท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับ 2 รองจาก Blue Mountain เลยนะ ถ้ามาเร็วๆมันจะมีทัวร์ไปดูปลาโลมาด้วย นอกนั้นก็มี Sand Dunne โอ๊ยยย ชอบๆๆๆ ฝันจะไปไถลเนินทรายกันให้มันส์ มีชายหาดสวยๆ อ่านกันไป ขับรถเล่นชมวิวไปเรื่อยๆ ไปตาม GPS ตั้ง Destination Port Stephens ไว้เลย ได้ตามเวลากำหนด ทำไมเราถึงได้เข้ามาในป่า มันดูเงียบๆเหงาๆ ทะเลก็ไม่เห็น แต่มาตาม GPS เลยนะ ผ่านเข้าหมู่บ้านเงียบๆมาจนจะสุดทาง เจอป้า 2 คนยืนคุยกันอยู่เลยจอดถามว่า Port Stephens ไปทางไหน ป้าถามว่าจะไปที่ไหนของ Port Stephens ล่ะจ๊ะ เลยสุ่มที่ที่ดังๆไปว่า Nelson Bay จ้ะป้า ป้าก็เลยถามว่ามาตาม GPS ใช่มั๊ย?ว่าแล้วป้าก็หัวเราะเล็กๆอ่ะ คงมีคนหลงมาบ่อย จากข้อสรุปแล้ว เราผ่านทางแยกมาเป็นสิบกิโลแล้ว เรามาตามที่เครื่องมันบอก ซึ่งเมื่อมาสุดหน้าบ้านป้า เครื่องบอกให้ขับต่อไปอีกซึ่งทางมันสุดแล้ว ตันแล้ว แต่ถึงจะไปต่อได้ก็ต้องเงิบอยู่ดีเพราะต่อไปมันต้องข้ามทะเลไป!! เครื่องมันบ้า!!!  (บ้านป้าอยู่แถบ Tea gardens โน่น ดูจากแผนที่จะเข้าใจความบ้าของ GPS)

วนกลับออกมาเพื่อหาทางแยกตามที่ป้าบอก แต่สุดท้ายก็ไปถึงจนได้ตั้ง GPS ใหม่ไปหา Nelson Bay, Anna Bay ไปจนถึง Shoal Bay ทะเลแถบนี้คลื่นสูงท่วมหัวท่วมหู ดูน่ากลัวสุดๆเลย จากนั้นตามหา San Dunne ไปถึงแล้วเข้าไม่ได้อ่ะ ต้องไปติดต่อสำนักงานการท่องเที่ยวเพื่อเปลี่ยนเป็นรถนำเที่ยวของเค้า หรือไม่ก็ต้องเอา 4WD มา แง.... เลยไม่ได้เข้า ย้ายไปนั่งชมวิวกันแถบ Nelson Bay

เวลาเริ่มเย็น เลยกลับกันดีกว่า กลัวจะมืดกลางทาง ขากลับขับวนไปวนมา หลงทางเล็กน้อย แต่ดันมาผ่าน Lemon Three Passage เห็นแสงสีกำลังงามเลย ชอบมากๆ สงบเงียบ งามดี ลงไปกวนตีนเด็กตกปลาเล่น น้องเค้าทักมันว่า “Hey, Boys” มันตอบกลับว่า “Hey, Girl!!” เอากะมันซิ!! หากใครอยากเล่นกับโคอาล่าหรือจิงโจ้ แถวนี้ก็มีไร่ให้แวะเข้าไปเยี่ยมเยียนนะ แต่เราไม่เข้าเพราะเคยดูกันมาแล้ว

กลับถึงซิดนีย์ จอดรถที่รร.เจอค่าจอดรถไปหลายร้อยบาท  แม่เจ้า แพงจริง แต่เรากลับมาช้าเลยคืนรถไม่ทัน ต้องไปคืนตอนเช้า โธ่... วันนี้เดินไปกินอาหารเกาหลี แถบโคเรียนทาวน์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลที่พักนัก เค้าว่ากันว่าร้านนี้ดัง ไปชิมดูก็อร่อยจริง ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศชิมอาหารเกาหลีระหว่างเที่ยวซิดนีย์บ้างลองไปชิมดู Madang, Sydney

.
.

Sydney Day 4

วันนี้ฟรีเดย์ ช็อปๆๆ และ กินๆๆๆ เริ่มด้วยมื้อเช้าที่ร้าน Pie face สาขาใกล้โรงแรม เล็งมานานล่ะ เพิ่งได้โอกาสชิม ไปสั่งซุป+ขนมปังแถมด้วยโกโก้ร้อนๆในราคามิตรภาพ อิ่มใช้ได้ทีเดียว มีหนุ่มๆคนทำงานมาแวะซื้ออาหารเช้าเป็นอาหารตาด้วย ฮี่ๆๆ สายโด่งพวกเราออกเดินชมเมืองกัน วันนี้อากาศดีมากๆเลย จากที่พักของเราซึ่งอยู่ละแวก Hyde Park ก็เดินไปเที่ยวได้สะดวก ข้ามถนนไป 2 เส้นก็เจอ David Jones แล้ว เห็นป้าย SALE!! ตัวเบ้อเร่อ ทุกท่านพุ่งหายเข้าไปทันที สาละวนซื้อของลดราคากัน เดินไปตามทางมีเสียงรถโมโนเรลดังกึงๆอยู่บนหัว เสียดายไม่ได้นั่ง เพราะอีกไม่กี่วันมันจะหยุดให้บริการแล้ว (ตามข่าวว่า ได้ทำการวิเคราะห์แล้วว่าโมโนเรลนั้นไม่คุ้มค่าการลงทุน ซ่อมบำรุงแพง มลพิษก็มาก ซิดนีย์เปิดใช้มานานมากแล้ว เลยตัดสินใจหยุดบริการ แต่ขอบอกว่าประเทศกำลังพัฒนาที่เราจะกลับไปพรุ่งนี้ กำลังกระเสือกกระสนจะขออนุมัติงบมาทำโมโนเรลที่ประเทศพัฒนาแล้วเค้าเลิกใช้กันนี่แหละ...กร๊วกเอ๊ยยย)

ออกห้างนั้นเข้าห้างนี้ ละลายเงินกันชนิดทิ้งทวน เพราะพรุ่งนี้จะกลับบ้านแล้ว สุดท้ายไปจบที่ QVB ยังไม่ได้เดินอะไรมากคุณเพื่อนสาวคนวันก่อนก็โทรตามว่าจะไปทานอาหารเย็นด้วยกันหรือไม่ นางจองโต๊ะร้านดังเป็นร้านสเต็กไว้ให้ จองมันแต่เปิดร้าน 17.30 เลย ร้านมันอยู่ดาร์ลิ่งฮาเบอร์ตรงนี้เอง ก็เลยตกลงไปกัน ร้านดังที่เจ้าถิ่นแนะนำทั้งทีไม่ไปได้ไง

มาถึงดาลิ่งฮาเบอร์ก่อนเวลา เลยได้โอกาสนั่งชิลๆชมวิวริมอ่าว บรรยากาศมันดีจริงๆนะวันนี้ เริ่มมีคนมาจับจองที่ตรงขั้นบันไดกันบ้างแล้ว เพราะเวลา 6.00 จะมีน้ำพุเต้นระบำพร้อมแสงสีเสียง หนึ่งใน Vivid of Sydney เราอยู่ที่ร้านมองมาก็จะเห็นเหมือนกัน ถึงเวลาก็เดินไปร้าน ได้โต๊ะตรงระเบียงมองเห็น Light&Sound จริงๆด้วย ร้าน Hurricane นี่นางบอกว่าเป็นร้านดังของ Sydney ขายพวก Rib ต่างๆ เราเลยสั่ง ทั้งหมู เนื้อ แกะ เอามาแชร์กัน จิบไวน์แกล้มไปด้วย เฮฮาปาร์ตี้ส่งท้ายกันยาวนาน จนแสงสีเสียงจบไปแล้วตั้งนานถึงได้ฤกษ์เช็คบิล แต่มันยังไม่หมด!! ระหว่างนั่งคุยกันไป ก็มีร้านเด็ดอีกร้านที่นางอยากให้ไปชิม เป็นร้านของหวาน เดินไปได้ไม่ไกล เป็นทางกลับโรงแรมของพวกเราด้วย แม้จะอิ่มและใกล้เมา แต่ก็บ่ยั่น... 555

ร้าน Maxbrenner อยู่ชั้น 6 ของ Westfield Shopping Center ตรง Pitt street (มีหลายสาขานะ หลายเมืองด้วย) ไปถึงตึกมันจะปิดแล้ว แต่ร้านอาหารข้างในยังไม่ปิด ต้องถามเค้าว่าใช้ลิฟต์ไหนได้ ขึ้นไปซัดของหวานที่เจ้าถิ่นไปช่วยเลือกมา 2-3 จาน ช็อคโกแล็ตลาวามันเจ๋งสุดๆเลย เยิ้มๆอร่อยมาก ระหว่างซัดของหวานก็ชมสตรอเบอรรี่ของที่นี่ว่าใช้ได้โง้นงี้ เลยเกิดโปรแกรมต่อไป ไปซื้อสตรอเบอรรี่ในซุปเปอร์อีก 555 ไปได้เรื่อยๆ แต่ก็ดีถือโอกาสกวาดขนมของฝากด้วยเลย กวาดทิมแทมรสใหม่ๆที่ยังไม่มีในไทยมาด้วย เอาสตรอฯมาแค่แพ็คเดียวเพราะดึกแล้ว ของมีไม่มาก แบ่งๆกันไป (เอามาฝากแม่ แม่บอกสตรอฯที่ซื้อจากเกาหลีงวดก่อนอร่อยกว่า) จบวันอิ่มอืดมาก....

Sydney Day 5 

กลับบ้าน!!




ร้านแนะนำ (เฉพาะที่ไปกินมานะ ร้านอื่นมีอีกเพียบ)

แพนเค้ก เคร้ป ที่ Pancake on the Rocks

ร้านช้อกโกแลต Max Brenner
Pork Ribs, Beef Ribs ที่ Hurricane's Grills
Madang (Korean food)
Pie face ร้านพายหลายอารมณ์ ราคาย่อมเยาว์
Nando's chicken ร้านไก่ทอดรสจัดถูกปากคนไทย

















No comments:

Post a Comment